"บิ๊กโจ๊ก" บิน สุราษฎร์​ เยียวยาเหยื่อ "ค้ามนุษย์"ไม่หวั่นพื้นที่อิทธิพล

"บิ๊กโจ๊ก" บิน สุราษฎร์​ เยียวยาเหยื่อ "ค้ามนุษย์"ไม่หวั่นพื้นที่อิทธิพล

"บิ๊กโจ๊ก "เตรียมบิน​ สุราษฎร์​ บ่ายนี้คุยพ่อแม่เหยื่อค้ามนุษย์ ยันได้เยียวยา มั่นใจไม่มีการเมืองแทรกแซง ไม่หวั่นพื้นที่อิทธิพล เพราะไม่ได้กลั่นแกล้งใคร

11 พ.ค.2564 พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผบ.ตร.ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ รอง ผอ.ศพดส.ตร. ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในคดีละเมิดสิทธิเด็กที่จังหวักสุราษฎร์ธานี ว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุสรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) และพลตำรวจเอกสุวัจน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.มอบหมายให้ตนลงพื้นที่อีกครั้ง เพื่อดูแลสำนวนความคืบหน้าของคดีและพบกับพ่อแม่ของเด็ก 


ผู้สื่อข่าวถามว่าหวั่นใจหรือไม่กรณีที่มีนักการเมืองในพื้นที่แทรกแซง พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ยอมรับว่า เรื่องนี้มีปัญหามานานแล้วแต่ใครก็ตามที่เข้ามาแทรกแซงการสอบสวน ตนได้ให้พนักงานสอบสวนทำเรื่องขออนุมัติต่อศาลเพิกถอนการประกันไปแล้ว ขณะนี้ผู้ต้องหาที่ได้รับการประกันตัวไปก่อนหน้านี้ ศาลก็ได้เพิกถอนการประกันแล้ว จนต้องกลับเข้าไปอยู่ในเรือนจำ คดีนี้ทำง่ายๆตรงไปตรงมาไม่มีอะไรซับซ้อน ดังนั้นพนักงานสอบสวนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการงานร่วมกันกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ดังนั้นกระทำเหมือนเช่นทุกองค์กรที่ถ้ามีผู้กระทำผิดก็ต้องทำความจริงให้ปรากฎโดยเฉพาะผบ.ตร.ได้เน้นย้ำ ส่วนไหนที่กระทำผิดก็ต้องทำความจริงให้ปรากฎ 

พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในท้องถิ่นต้องแยกให้ออกส่วนไหนถูก ส่วนไหนผิด ไม่เช่นนั้นเด็กจะย่ำแย่ ดังนั้นที่สำคัญคือจะต้องกันเด็กทั้งหมด 8 คน รวมทั้งหัวหน้าบ้านพักเด็กเข้าร่วมโครงการคุ้มครองพยาน โดยประสานกระทรวงยุติธรรมเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามการลงพื้นที่ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ตนจะพบกับพ่อแม่เด็กเพื่อให้เกิดความมั่นใจและอุ่นใจ ว่าเขาจะน้องได้รับเงินเยียวยา และได้รับการดูแล 


ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ไม่ลำบากใจกรณีอิทธิพลในพื้นที่ใช่หรือไม่ ผู้ช่วยผบ.ตร. กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่หนักใจ เพราะสิ่งที่เราทำมีความชัดเจน ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร ทำอย่างตรงไปตรงมา 

ทั้งนี้ เรื่องการตีเด็กในสถานที่ราชการจะต้องไม่เกิดขึ้น และเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องบังคับใช้กฎหมายเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ยืนยันว่าไม่มีเรื่องการเมืองในพื้นที่เข้ามาเกี่ยวข้องหรืออาจจะเป็นเครือญาติหรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งถือเป็นการกระทำผิด ปกติ ก็ต้องถูกดำเนินคดี