"พระบิดา" อ่วม โดนแล้ว 8 ข้อหาหนัก สาวกลั่นขอตามไปอยู่ที่ไร่อยู่เย็นเป็นสุข

"พระบิดา" อ่วม โดนแล้ว 8 ข้อหาหนัก สาวกลั่นขอตามไปอยู่ที่ไร่อยู่เย็นเป็นสุข

รองผู้ว่าฯชัยภูมิ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่บุกตรวจสอบสำนักลัทธิเพี้ยนของ "พระบิดา" อย่างละเอียดอีกรอบ ล่าสุดโดนแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 8 ข้อหาหนัก

จากกรณี "หมอปลา" ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในจังหวัดชัยภูมิ นำโดยนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เข้าตรวจสอบสำนักลัทธิเพี้ยนของ "พระบิดา" ในพื้นที่บ้านกุดแคน หมู่ที่ 2 ตำบลดงกลาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ หลังมีชาวบ้านร้องเรียนว่าบริเวณสำนักแห่งนี้มีการกักขังผู้มาปฏิบัติธรรมและรักษาโรคโดยวิธีการแบบแปลกประหลาดไม่ถูกสุขลักษณะ จึงนำกำลังเข้าดำเนินการตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา

 

 

จากการตรวจสอบพบ นายทวี หนันลา อายุ 74 ปี หรือ "พระบิดา" เจ้าสำนักลัทธิเพี้ยน โดยอ้างสามารถรักษาโรคต่างๆได้ จนมีชาวบ้านหลงเชื่อมารักษาตัวประมาน 30 คน นอกจากนี้ยังพบโลงบรรจุศพอีกจำนวน 11 ศพ บางศพก็มารักษาและเสียชีวิตที่นี่ บางศพก็เสียชีวิตที่บ้านแล้วนำศพมาให้พระบิดาตามความเชื่อ

 

ล่าสุดวันนี้(13 พ.ค. 2565) นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่การปกครองจังหวัดตำรวจ ป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยภูมิ เจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์ และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าตรวจสอบเก็บหาหลักฐานต่างๆ

 

โดยแยกให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆได้ออกหาหลักฐานมานำมาแจ้งความดำนินคดีกับพระบิดาโดยได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิได้เก็บตัวอย่างน้ำหมักต่างๆในโอ่งนับ 100 ใบ พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างน้ำในบ่อหมักปลาร้าพระบิดา เพื่อส่งไปตรวจพิสูตรในห้องปฏิบัติการณ์สาธารณสุข

 

 

ส่วน เจ้าหน้าที่ อส. ฝ่ายปกครอง ได้ขุดหาหลักฐานต่างๆโดยรอบนำนักฯ นอกนั้นยังได้ให้ปศุสัตว์ได้มาทำการตรวจนับสัตว์ต่างๆทั้งที่ผิดกฎหมายและถูกกฎหมาย พร้อมทำบัญชีการตรวจนับพบว่าภายในวัดยังมีสัตว์จำนวนมาก ประกอบด้วย วัว 11 ตัว ควาย 5 ตัว กวางพันธุ์รูซ่า 15 ตัว ไก่ไข่ประมาณ 30 ตัว ไก่พื้นเมืองและไก่งวงอีกจำนวนหนึ่ง

 

เป็ดเทศ 15 ตัว สุนัข 20 ตัว แมว 20 ตัว อีกัวน่า 1 ตัว หนูตะเภา 24 ตัว ซึ่งขณะนี้พบว่าสัตว์ต่างที่อาศัยอยู่ในสำนักของพระบิดากำลังอดอาหารหิวโซ โดยมีชาวบ้านนำอาหารเม็ดมาวางไว้กิน

 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าแจ้งดำเนินคดีกับ "พระบิดา" แล้วใน 8 ข้อหาหนัก ได้แก่ 1.ข้อหาการบุกรุกที่สาธารณะประโยชน์ 2.ข้อหาการรักษาโรค ผิด พ.ร.บ.ความสะอาดของสาธารณสุขฯ 3.ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตาม พ.ร.ก.บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548

 

4.ปลูกผลิตกัญชา 5.มีซากสัตว์ป่าสงวนไว้ในครอบครอง 6.เจาะบ่อบาดาลและใช้น้ำ โดยไม่ได้รับอนุญาต 7.ดำเนินคดีในฐานทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ มาตรา 11,73 (มีไม้พะยูง 40 ท่อนอยู่ในสำนักฯ) และ 8.ฐานมีไม้ท่อนหวงห้าม (มีไม้เต็งรัง 11 ท่อน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ มาตรา 69

 

จากนั้นยังให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ทำการจับพิกัดพบว่า "พระบิดา" ได้บุกรุกที่ป่าไม้สาธารณะจำนวน 26 ไร่กว่า นั้นหมายความว่าอยู่ในเขตป่าไม้ 2484 และตามมาตรา 4 (1) ที่ระบุที่ดินที่ยังมีผู้ได้มา ตามประมวลกฎหมายที่ดินซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ยังต้องดูแล ดังนั้นการเข้ายึดถือครอบครองทำประโยชน์โดยไม่ได้ขออนุญาตจากกรมป่าไม้ ถือว่าเป็นการบุกรุกอย่างแน่นอน จึงมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 54,55 อีกกระทง

 

ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าแจ้งความดำเนินการตามกฎหมายกับ "พระบิดา" เพิ่มเติม ต่อ ร.ต.อ.รังสรรค์ เอี่ยมไธสงค์ พนักงานสอบสวน สภ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ พร้อมทั้งได้สั่งการให้ฝ่ายปกครอง ตำรวจ จัดกำลังในพื้นที่จัดเวรยามดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และบริเวณโดยรอบหมู่บ้านแล้ว เพื่อป้องกันการจะมีการเข้ามาขโมยทรัพย์สินและทำลายหลักฐาน พยานต่างๆไว้เพื่อรอดำเนินคดีต่อไป

 

จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่าเมื่อช่วงเย็นวันที่ 10-11 พ.ค.65 ได้มีบรรดาลูกศิษย์ทั้งผู้ชาย ผู้หญิงและเด็กมีหลายสิบคน ได้พากันมาขนข้าวของมีค่าออกไปจากที่พัก พร้อมบอกว่าจะเดินทางไปอยู่กับพระบิดาที่ไร่อยู่เย็นเป็นสุข หมู่ 4 อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น อยู่ห่างจากเขตอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ประมาณ 2 กิโลเมตร จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่รอยต่อระหว่าง อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น และ อ.ภูกระดึง จ.เลย

 

นายเสกสรร สวัสศรี นายอำเภอคอนสาร จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า วันนี้ได้รับการมอบหมายจากนายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าฯชัยภูมิ ให้เป็นหัวหน้าชุดนำกำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและพยานหลักฐานต่างๆอย่างละเอียด ซึ่งถือว่าเป็นการเอกซเรย์พื้นที่อย่างละเอียดอีกรอบ หลังจากได้แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยแยกให้เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆได้แยกย้ายกันออกเก็บหาหลักฐานต่างๆเพื่อนำไปสรุปและเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ "พระบิดา" ต่อไป

 

ข่าวโดย วิรัตน์ ดวงแก้ว จ.ชัยภูมิ