ยึดทรัพย์ 120 ล้าน จนท.สนธิกำลังลุยขยายผล ปราบแก๊งค้ายาเมืองชลบุรี 

ยึดทรัพย์ 120 ล้าน จนท.สนธิกำลังลุยขยายผล ปราบแก๊งค้ายาเมืองชลบุรี 

เจ้าหน้าที่ สนธิกำลังลุยแก๊งค้ายาเมืองชลบุรี ขยายผลยึดทรัพย์มูลค่า 120 ล้านบาท เผยเส้นค้ายาเสพติดและฟอกเงินร่ำรวยผิดปกติ

เจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค 2 ร่วมกับตำรวจ สภ.ห้วยไร่ และเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด กองบังคับการตำรวจจังหวัดเชียงราย ขยายผลเข้าเข้ายึดทรัพย์เครือข่ายจำหน่ายยาเสพติด เป็น อพาร์ทเมนท์ สูง 8 ชั้น มีห้องเช่า 84 ห้อง มูลค่า 120 ล้านบาท

เช้าวันนี้ (18 พฤษภาคม 2565) เจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค 2 ร่วมกับตำรวจ สภ.ห้วยไร่ และเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด กองบังคับการตำรวจจังหวัดเชียงราย รวมกว่า 30 นาย สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี เดินทางไปที่อพาร์ทเมนท์สบายดี ย่านนิคมอุตสาหกรรม ตำบลคลองตำหรุ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี มีความสูง 8 ชั้น รวม 84 ห้อง ราคาประมาณ 120 ล้านบาท

โดยนำเอกสารการตรวจยึดเข้าแสดง หลังทราบว่าจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เป็นชื่อนางทัศพร ที่มีหมายจับ ฐานร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 จากการสอบถามพนักงานทราบว่า เปิดให้เช่าพักเดือนละ 3,500 บาท มีผู้เช่าเต็มทุกห้อง มีรายได้ต่อเดือนประมาณ 294,000 บาท

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2565 ด่านตรวจห้วยไร่ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ได้จับกุม นายวิบูรณ์ ทะกัน ชาวเชียงราย ขณะขับรถบรรทุก 10 ล้อ ขนลำเลียงยาบ้า 5,600,00 เม็ด และไอซ์ 20 กิโลกรัม ต่อมาขยายผลจับกุม นายสม บุดดี และนายไพโรจน์ ชัยวงค์ ผู้สั่งการให้ นายวิบูรณ์ ขนยาเสพติดของกลาง ตรวจยึดทรัพย์สินไปแล้วกว่า 23 ล้านบาท 

จากการสืบสวนพบว่า นายธนกร ชาวปทุมธานี เป็นผู้ร่วมขบวนการ โดยเดินทางไปเจรจาซื้อขายและเป็นตัวประกันที่ประเทศเพื่อนบ้าน พบการติดกันทางโทรศัพท์และโอนเงินไปมาหากันจำนวนมากในช่วงเกิดเหตุกับนางทัศพร และกลุ่มนักค้าชายแดนภาคเหนือที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน 

ต่อมาช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2565 ศาลได้อนุมัติหมายจับ นายธนกรกับนางทัศพร และพวกรวม 12 คน ฐานร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมื่อเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ทราบว่า นางทัศพร ผู้ต้องหาตามหมายจับ เป็นเจ้าของอพาร์ทเมนท์สบายดี จึงประสานกับ ป.ป.ส.ภาค 2 ชลบุรี เข้ายึดตรวจสอบ

จากตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมยังพบประวัติของนางทัศพร ว่าเมื่อปี 2559 เคยถูกตรวจสอบทรัพย์สินมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท เนื่องจากเกี่ยวข้องกับคดีที่ สภ.แม่พริก จับกุมยาบ้าหลักล้านเม็ด และเมื่อปี 2548 ยังเคยถูกร้องเรียนผ่านสายด่วน 1386 ว่าเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดและมีฐานะร่ำรวยผิดปกติ ทั้งที่ไม่ได้ประกอบอาชีพใด อาจเป็นผู้ถือครองทรัพย์สินแทนญาติ ซึ่งเป็นนักค้ายาเสพติดรายใหญ่อีกด้วย