"สกลธี" ย้ำ ถ้าได้เป็นผู้ว่าฯ จะทำงานอิสระไร้ข้อกำหนดพรรค เชื่อถ้านโยบายดี ก็ไม่มีใครกล้าขวาง

"สกลธี" หาเสียงย่านสวนหลวง หวังพัฒนาคลองประเวศบุรีรมย์เพิ่มความสะดวกคนพื้นที่ ชี้จะเป็นผู้ว่าฯ กทม. ที่มีอิสระ ไม่มีข้อกำหนดพรรคมากำกับ มั่นใจทำงานได้กับ ส.ก. จากทุกพรรคทุกทีม เชื่อถ้าโครงการดีต่อคน กทม. ก็ไม่มีใครกล้าขวาง

(พื้นที่โฆษณา) เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2565 นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 กล่าวระหว่างการลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดเอี่ยมสมบัติ ย่านสวนหลวง ว่า วันนี้ยังคงลงพื้นที่หาเสียงต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีเวทีดีเบตถี่ขึ้น โดยตอนเช้าได้ไปที่วัดมหาบุศย์ และได้ไปดูคลองประเวศบุรีรมย์ ที่เชื่อมต่อกับคลองแสนแสบ ที่เห็นว่าสามารถเชื่อมในระบบ "ล้อ ราง เรือ" ตามนโยบาย "สกลธีโมเดล" ได้ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการสัญจรให้กับคนในพื้นที่ และจากที่ดูก็สามารถที่จะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้วย โดยเฉพาะจุดที่วัดมหาบุศย์ ซึ่งมีความสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีคนมากราบไหว้ คือศาลย่านาค และยังมีท่าเรือ มีวัดต่างๆ อีกหลายแหล่ง และยังเป็นชุมชนที่มีคนอาศัยอยู่มากถ้าพัฒนาดีขึ้นก็จะทำให้ประชาชนมีความสะดวกยิ่งขึ้น

นายสกลธี กล่าวว่า วันนี้ยังมี ผู้สมัคร ส.ก.ในพื้นที่ที่เคยคุ้นเคยและเคยทำงานร่วมกันมามาเดินหาเสียงด้วย ซึ่งในการลงพื้นที่แต่ละแห่ง จะมี ส.ก.เพื่อนๆ พี่ๆ ที่เคยทำงานร่วมกัน รวมไปถึง ส.ก.กลุ่มอื่นๆ ที่มาสนับสนุนและมาหาเสียงร่วมกันด้วย ในฐานะที่ตนลงสมัครในนามอิสระ จึงคิดว่าไม่ได้มีข้อกำหนดของพรรคมาทำให้เกิดข้อจำกัดในการทำงาน ผู้สมัคร ส.ก.หลายคนที่พรรคต้นสังกัดไม่ได้ส่งผู้สมัครฯ ผู้ว่า ก็เปิดโอกาสให้ ส.ก. สามารถตัดสินใจได้เองว่าจะสนับสนุนใคร โดยในวันที่ 20 พ.ค.ในวันปราศรัยใหญ่นี้ กลุ่ม สก.ที่สนับสนุนตนก็จะไปร่วมด้วย คนที่สนับสนุนตนก็จะทราบและตัดสินใจเลือกได้

"คือในส่วนของ ส.ก. คงไม่ใช่ผู้สมัครที่มาจากพรรคเดียวมาสนับสนุนตน แต่ยังมีทีมอิสระ หรือหลายทีมที่จะเปิดตัวในวันนั้น หลายคนอาจจะถามว่าทำไมสกลธีไม่ลงสมัครในนามพรรคไปเลย ต้องบอกตรงๆ ว่าทุกคนไม่ได้ช่วยผม มีเพียงบางคนที่ยังคงช่วยผมเพราะเท่าที่ทราบมาพรรคที่ไม่ได้ส่ง ผู้ว่าฯ เขาให้อิสระ ผู้สมัคร ส.ก.ในการสนับสนุน ส่วนใครที่สนับสนุนผมก็จะเปิดกันเลยในวันที่ 20 พ.ค.นี้" นายสกลธีกล่าว

ต่อประเด็นที่ว่า ผู้สมัครอิสระ จะสามารถทำงานได้ราบรื่นกว่าผู้ว่าฯ ที่มาจากพรรคการเมืองหรือไม่นั้น นายสกลธี กล่าวว่า ตนมองว่า หากผู้ว่าฯ ที่มาพร้อมกับ ส.ก. ในการทำงานเมื่อเสนอโครงการมาก็คงจะผ่านให้หมด แต่ถ้าตนเป็นผู้ว่าแม้ว่าจะไม่มี สก. สักคนก็ตาม แต่ถ้าสิ่งที่ตนทำเป็นประโยชน์ต่อชาวกรุงเทพคงไม่มี ส.ก. คนไหน พรรคไหน กล้าที่จะขวางในสิ่งที่ตนจะทำ จะมี ส.ก. มาด้วยหรือไม่ จึงไม่สำคัญแต่สำคัญที่ต้องมีทีมงานที่มีอิสระ มีความสามารถมากกว่า แต่ในทางกลับกันหากเป็นผู้ว่า หรือ มี ส.ก. ในนามพรรค ส่งคนที่ไม่เหมาะกับงานเอาแค่คนที่เป็นโควต้าของพรรคมานั่ง ตนก็ไม่เอาแบบนั้นเหมือนกัน