หลวงพี่น้ำฝน ไม่ให้ราคา ไพรวัลย์ ชี้ หมอปลา มาปรึกษาหลังเจอดราม่า หลวงปู่แสง

หลวงพี่น้ำฝน ไม่ให้ราคา ไพรวัลย์ ชี้ หมอปลา มาปรึกษาหลังเจอดราม่า หลวงปู่แสง

"หลวงพี่น้ำฝน" ไม่ให้ราคา "ไพรวัลย์" เก่งบนโลกโซเชียล เตือนระวังบาปกรรมจะตามทัน เผย "หมอปลา" มาปรึกษาหลังเจอดราม่ากรณี "หลวงปู่แสง"

วันที่ 27 พฤษภาคม 2565 พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ "หลวงพี่น้ำฝน" เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม เปิดเผยว่า หลังจากนายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือ "หมอปลา" ได้เดินทางมาพร้อม "น้ำฟ้า" ภรรยา และ "กัน จอมพลัง" เพื่อมาปรับความเข้าใจในแนวทางการทำงาน และได้มีการโพสต์ภาพหมู่ลงในโซเชียล พร้อมเขียนข้อความระบุว่า "หน้าที่พุทธบริษัท 4 ต้องปกป้องศาสนาต่อไป มือปราบอลัชชีเข้าตามตรอกออกตามประตู น้อมรับคำสอนของหลวงพี่น้ำฝน สาธุ" จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ "ไพรวัลย์" ออกมาประกาศตัดสัมพันธ์กับหมอปลานั้น

 

 

โดย "หลวงพี่น้ำฝน" เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ระบุว่า กับ "หมอปลา" ได้มีการมาพบกันจริง โดยมาสอบถามเหตุผลและแนวทางในสิ่งที่เกิดเป็นกระแสสังคมตีกลับกรณี "หลวงปู่แสง" เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้หลวงพี่น้ำฝนยังได้กล่าวถึงกระแสร้อน กรณี "ไพรวัลย์" ประกาศตัดสัมพันธ์หมอปลาด้วยว่า

 

"ได้ทราบเรื่องที่นายไพรวัลย์ออกมาโพสต์และไลฟ์สดแล้ว ก็ไม่ได้วิตกอะไร เพียงแต่สงสัยว่านายไพรวัลย์ต้องการอะไรกับสิ่งที่หมอปลาได้มาพบและมาคุยกับอาตมา เพราะตอนนี้หมอปลาได้เข้ามาปรึกษาหารือเพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้องเรื่องของข้อกฎหมาย วันนี้อาตมาได้แนะแนวทางไปแล้วว่าจะต้องทำอย่างไร และพร้อมประสานงานให้กับสำนักงานพระพุทธศาสนา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยอาตมาไม่ได้ร่วมมือกันเพียงแต่แนะแนวทางให้นำไปปรับใช้"

 

 

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่อว่า น่าแปลกใจว่าหมอปลากำลังมาเดินทางในสิ่งที่ถูก แต่ปรากฏว่ามีคนบางคนไม่พอใจและมาต่อว่า เหมือนกับส่งหมอปลาไปทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็ออกมาต่อต้าน ตำหนิ ด่า ซึ่งเขาด่าไปหมด พระก็ด่า คนนั้นคนนี้เลวหมด มีแต่เขาดีคนเดียว ซึ่งสงสัยว่าจะมีเบื้องลึกในการออกมายุยงส่งเสริมให้คนทำไม่ดี พอพระไปเตือนก็โดนด่าด้วย ซึ่งหมอปลาก็น่าจะรู้ว่าตกเป็นเหยื่อถึงได้มาปรึกษาหารือ มองดูเหมือนเป็นคนที่ไม่มีธรรมอย่างแท้จริง ซึ่งพระจะมาแค้นฝั่งหุ่นกับญาติโยมได้ยังไง เขามาถามมาปรึกษาก็พูดคุยกับด้วยการคิด วิเคราะห์ แยกแยะด้วยเหตุผล

 

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่ออีกว่า ส่วนเรื่องลงนะหน้าทองก็เหมือนกัน ก็พูดกันจัง ถามว่าอาตมาไปบังคับใครให้เขามาลงนะหรือไม่ เขามากันเอง และเป็นวิชาโบราณจากครูบาอาจารย์ที่ได้ทำสืบทอดกันมา ไม่ได้ทำในที่ลับ สิ่งที่สอนก็คือหลักธรรมให้ไปเป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิต แล้วผิดอะไร พูดแบบนี้เหมือนกับอาตมาทำตัวไม่ดีมาก ถ้าแบบนั้นหลวงพ่อพูลก็ต้องถูกตำหนิไปด้วยว่าดูแลสั่งสอนไม่ดีอีก

 

"อาตมาไม่ให้ค่าคนแบบนี้ มีไม่มีราคา อยากจะถามว่าคิดอะไร ทำไปทำไม ต้องการอะไร ซึ่งคนที่ออกมาต่อว่าก็เหมือนว่าจะมีอคติ จิตใจไม่ปกติ ด่าไปหมด พระเลวหมด ทำอะไรก็ไม่ดี วันหนึ่งเวรกรรมจะตามทันกับสิ่งที่โพสต์ที่ไลฟ์สด คือออกมาด่าก็คือทำคอนเทนต์ และสุดท้ายก็กลับมาขายของ อาตมาบอกเลยเก่งในโลกโซเชียลเดี๋ยวกรรมก็จะตามมาเอง และต้องถามว่าเขาทำอะไรให้สังคมบ้าง มาดูที่วัดไผ่ล้อมว่าช่วยเหลือสังคมอย่างไร สร้างโรงพยาบาล โรงเรียนมากี่ร้อยล้านแล้ว ถ้าอาตมาไม่ดีอยู่มาถึงตรงนี้ไม่ได้แน่ โยมมาดูได้ มาตรวจสอบได้" หลวงพี่น้ำฝน กล่าวปิดท้าย

 

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ติดตามความเคลื่อนไหวของเพจ "ไพรวัลย์ วรรณบุตร" พบว่ามีการลบภาพข้อความและไลฟ์สดถึงประเด็นดังกล่าวออกจากหน้าเพจไปแล้ว เหลือเพียงการไลฟ์สดการขายทุเรียนเท่านั้น

 

ข่าวภาพโดย ปนิทัศน์/ ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม