ไฟไหม้คลังสินค้าซัมซุง สมุทรปราการ ยังประเมินค่าเสียหายไม่ได้

กรณีเกิดเหตุไฟไหม้กลางดึก คลังสินค้าโกดังขนาดใหญ่ เครื่องใช้ไฟฟ้าซัมซุง สมุทรปราการ คาดไฟฟ้าลัดวงจร ยังไม่สามารถประเมินค่าเสียหายได้ เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 29 พฤษภาคม 2565 ร.ต.อ.นเรศ ลี้เจริญ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเกิดเหตุไฟไหม้คลังสินค้า ของ บริษัท ซัมซุง เอสดีเอส โกลบอล เอสซีแอล ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 12 / 1 หมู่ 13 ถนนบางนา-ตราด ขาเข้าหลักกิโลเมตรที่ 9 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอบางพลี และรถดับเพลิง อบต.บางพลีใหญ่ และเทศบาลใกล้เคียงกว่า 20 คันเดินทางเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นคลังสินค้าซึ่งเป็นโกดังขนาดใหญ่ ได้พบเปลวไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงที่บริเวณด้านหลังของโกดังดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่เก็บวางสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องซักภาพและคอยร้อนของเครื่องทำความเย็นรวม ทั้งกล่องกระดาษที่ใช้บรรจุสินค้าวางกองอยู่เป็นจำนวนมาก และกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้เปลวไฟลุกโหมอย่างรุนแรงและลุกลามเข้าไปลุกไหม้ตัวอาคาร

 เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้ช่วยกันฉีดน้ำสกัดเพลิงอยู่นานกว่า 1 ชั่งโมง เปลวเพลิงจึงสงบเหลือเพียงขั้นตอนดับถ่านเท่านั้น พบว่าเพลิงได้เผาผลาญสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าและกล่องกระดาษที่วางอยู่ด้านนอกได้รับความเสียหายทั้งหมด และในตัวอาคารที่มีสินค้าเก็บอยู่ได้รับความเสียหายเป็นบางส่วน เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินค่าเสียหายได้

จากการสอบถามนายลอน อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ.ที่ดูแลอยู่ด้านหลังคลังสินค้า ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ตนเข้าเวรอยู่ด้านหลังของคลังสินค้าดังกล่าว โดยได้เปิดพัดลมเพื่อไล่ยุง และระบายความร้อน ก่อนที่จะตนเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ หลังเสร็จภารกิจออกมาจากห้องน้ำ ก็ได้พบเห็นไฟกำลังลุกไหม้กองกล่องกระดาษที่วางอยู่อยู่ข้างโกดัง ก่อนที่จะลุกลามมาลุกไหม้กองสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าที่วางกองอยู่ใกล้กัน ตนจึงวิ่งไปตามเพื่อน รปภ. ที่ประจำการณ์อยู่ป้อมด้านหน้าและเอานำถังเคมีดับเพลิงมาทำการฉีดเพื่อสกัดเปลวเพลิงแต่เอาไม่อยู่ จึงโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้เกิดจากอะไร แต่คาดว่าน่าจะมาจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร แต่อย่างไรก็ตาม จะได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อตรวจหาสาเหตุของเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้โดยละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป