ลดราคาค่าโดยสารรถไฟ 50% ให้ผู้สูงอายุนาน 4 เดือน เช็กหลักเกณฑ์-เงื่อนไข
ประเด็นเรื่องค่าโดยสาร รฟท. สำหรับ ผู้สูงอายุ จะลดราคาในวันที่ 1 มิ.ย.- 30 ก.ย. ของทุกปี ทาง ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย การรถไฟแห่งประเทศไทย
ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลประเด็นเรื่องค่าโดยสาร รฟท. สำหรับ ผู้สูงอายุ จะลดราคาในวันที่ 1 มิ.ย.- 30 ก.ย. ของทุกปี ทาง ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย การรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ราคาน้ำมันดีเซล" พุ่งสูง ปรับขึ้นราคาค่าโดยสารเรือข้ามฟาก 8 ท่า
- บขส.เปิดเดินรถเส้นทาง ไทย - สปป.ลาว 10 เส้น กรุงเทพ-เวียงจันทร์ กรุงเทพ-ปากเซ
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลดราคา ค่าโดยสารให้แก่ ผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำหนดให้หน่วยงานรับผิดชอบในการดำเนินการตามประกาศกระทรวงคมนาคม ฉบับลงวันที่ 1 กันยายน 2547 โดยให้แต่ละหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคุ้มครอง การส่งเสริม และการสนับสนุนแก่ผู้สูงอายุในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสาธารณะ
1.หลักเกณฑ์การลดค่าโดยสารครึ่งราคา
- ช่วงลดราคา ลดให้เฉพาะช่วงระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายนของทุกปี
- ผู้ที่ได้รับสิทธิ ได้แก่ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เฉพาะคนไทยหรือผู้มีสัญชาติไทยเท่านั้น
2.การลดค่าโดยสาร
- ลดให้เฉพาะค่าโดยสาร คิดครึ่งราคาของอัตราปกติทุกชั้นตลอดทางทุกสาย ส่วนค่าธรรมเนียมต่างๆไม่ลดให้
- หลักฐานที่ใช้แสดงขอลดค่าโดยสารประเภทผู้สูงอายุ ได้แก่บัตรประจำตัวประชาชน หรือเอกสารแสดงตัวบุคคลที่ทางราชการออกให้ โดยมีรูปถ่าย ชื่อ นามสกุล อายุ เดือนปีเกิด ซึ่งสามารถใช้เป็นหลักฐานคำนวณอายุได้ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ หรือหนังสือเดินทางไปต่างประเทศ
3.การคำนวณอายุผู้สูงอายุ
- ให้คำนวณจากเดือนและปีที่เกิด ถึงเดือนและปีปัจจุบันเป็นเกณฑ์ เช่น ผู้ที่เกิดวันที่ 31 พฤษภาคม 2487 มีสิทธิลดค่าโดยสารฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2547 เป็นต้นไป (ไม่ต้อนับวันเกิด)
ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสาร สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือสามารถจองตั๋วออนไลน์ได้ทาง เว็บไซต์
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : การรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม , ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม