พ่อเมืองน่านขอความร่วมมือ งดทำการประมงทุกชนิดช่วงสัตว์น้ำจืดวางไข่

พ่อเมืองน่านขอความร่วมมือ งดทำการประมงทุกชนิดช่วงสัตว์น้ำจืดวางไข่

พ่อเมืองน่านนำคณะลงพื้นที่ หมู่บ้านประมงปากนาย ขอความร่วมมือประชาชน งดทำการประมงทุกชนิดในช่วงฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ หรือฤดูน้ำแดง เพื่อคุ้มครองสัตว์น้ำจืด

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565  ที่หมู่บ้านประมงปากนาย ตำบลนาทะนุง เหนือเขื่อนสิริกิตติ์ อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน เส้นทางข้ามฟากไปสู่ อำเภอน้ำปาดจังหวัดอุตรดิตถ์ หมู่บ้านเล็กๆ เดิมเป็นหมู่บ้านริมแม่น้ำน่าน หลังการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ ชาวเหนือตอนล่าง อพยพมาจากหลายพื้นที่ หมู่บ้านปากนายได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน ลักษณะคล้ายทะเลสาบขนาดใหญ่โอบล้อมด้วยทิวเขา ชาวบ้านปากนายประกอบอาชีพประมง มีแพร้านอาหารให้เลือกชิมปลาจากเขื่อน และมีห้องพักบริการนักท่องเที่ยว หมู่บ้านประมงปากนาย จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอนาหมื่น นักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวชมธรรมชาติ กินปลาปากนาย พักผ่อนเหนือเขื่อนสิริกิติ์เป็นประจำ

 

พ่อเมืองน่านขอความร่วมมือ งดทำการประมงทุกชนิดช่วงสัตว์น้ำจืดวางไข่

นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นางสาวธนวันต์ ชุมแสง. ประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน ประมงจังหวัดน่าน ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดน่าน หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดเขื่อนสิริกิติ์ (อุตรดิตถ์) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ และตรวจตราการกระทำผิด กำหนด สำหรับฤดูน้ำแดง คุ้มครองสัตว์น้ำจืดมีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวอ่อนนั้น ห้ามมิให้ผู้ใดทำการประมงทุกชนิดในช่วงฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ ยกเว้น เครื่องมือบางชนิดตามระยะเวลาแต่ละพื้นที่ โดยจังหวัดน่านเริ่มตั้งแต่ 16 พ.ค. 15 ส.ค. 65

 

พ่อเมืองน่านขอความร่วมมือ งดทำการประมงทุกชนิดช่วงสัตว์น้ำจืดวางไข่

เครื่องมือและวิธีการทำประมงที่อนุญาต อาทิ ตะแกรง สวิง ชะนาง ที่มีขนาดปากกว้างไม่เกิน 2 เมตร และไม่ทำการประมงด้วยวิธีประดาตั้งแต่สามเครื่องมือขึ้นไป สุ่ม ฉมวก ส้อม ไซ ตุ้ม อีจู้ แห (ความลึกไม่เกิน 3 เมตร) เบ็ดทั่วไป ยกเว้น เบ็ดราว เบ็ดพวงที่ทำการประมงโดยวิธีกระชาก หรือการใช้เครื่องมืออื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นต้น ซึ่งมีบทลงโทษผู้ฝ่าฝืนใช้เครื่องมือชนิดอื่นนอกเหนือจากที่อนุญาตให้ใช้ตามประกาศ ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 5000-50,000 บาท หรือปรับจำนวน 5 เท่าของมูลค่าสัตว์น้ำ ที่ได้จากการทำการประมง แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า นอกจากนี้ยังมีโทษหนัก หากผู้ใดลักลอบใช้กระแสไฟฟ้าทำการประมง ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 2 แสนถึง 1 ล้านบาท หรือปรับจำนวน 5 เท่าของมูลค่าสัตว์น้ำ ที่ได้จากการทำการประมง แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า

 

จากนั้นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และคณะได้ลงพื้นที่สำรวจ และตรวจตรา ป้องปราบการกระทำผิด พร้อมประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนห้ามมิให้ผู้ใดทำการประมงทุกชนิดในช่วงฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ ฤดูน้ำแดง ยกเว้น เครื่องมือบางชนิด