อัปเดต! ซิ่งรถกู้ชีพ ขนยาบ้า 2.4 ล้านเม็ด แหกด่านตำรวจ จ่อหมายจับ 2 จนท.อาสา

 จากกรณีขบวนการค้ายาเสพติดใช้รถตู้กู้ชีพ ซึ่งเป็นรถพยาบาลขนยาเสพติด (ยาบ้า) จำนวน 2.4 ล้านเม็ด ผ่านเข้ามาในพื้นที่ จ.สระบุรี และแหกด่านตรวจ จนทำให้เกิดการยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ที่กำลังไล่ติดตาม โดยคนร้ายได้ขับรถหลบหนีผ่านเข้าไปในพื้นที่ อ.ธัญญบุรี จ.ปทุมธานี ก่อนที่นำรถตู้กู้ชีพ ที่ขนยาเสพติดไปจอดทิ้งไว้ ในเขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่ได้มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.สระบุรี เปิดเผยว่า สำหรับการไล่ล่าคนร้ายที่ลำเลียงยาเสพติด ประเภทยาบ้า กว่า 2.4 ล้านเม็ดในครั้งนี้ สืบเนื่องจากชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ได้ติดตามแก๊งค้ายาบ้ารายนี้มานานกว่า 1 เดือนแล้ว โดยครั้งแรกสามารถจับกุมเอเย่นรายใหญ่ได้ก่อนหน้านี้ จากนั้นจึงได้ขยายผลจนกระทั่งทราบว่า แก๊งค้ายารายนี้ ได้ใช้รถตู้กู้ชีพแบบรถพยาบาลในการลำเลียงยาเสพติด

กระทั่งเมื่อชุดสืบสวนทราบข่าวว่า จะมีการลำเลียงยาบ้าล็อตใหญ่ผ่านเข้ามาในพื้นที่ จึงได้ติดตามและตั้งด่าน เพื่อจับกุม แต่คนร้ายเกิดไหวตัว และได้ขับรถตู้กู้ชีพฯ หลบหนีเข้าไปในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยได้จอดรถทิ้งไว้ และได้หลบหนีไป นอกจากนี้ยังได้ทิ้งยาบ้า จำนวน 6 กระสอบ ซึ่งบรรจุยาบ้ากว่า 2.4 ล้านเม็ด อย่างไรก็ตาม เมื่อทำการสอบสวนจึงทราบว่า คนร้ายที่ขับรถกู้ชีพฯ คันดังกล่าว มีด้วยกัน 2 คน เป็นชาย 1 และหญิงอีก 1 คน ซึ่งเป็นแฟนกัน

นอกจากนี้จากการสอบสวน ยังทราบด้วยว่า สำหรับรถกู้ชีพฯ ที่ใช้ลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้ พบว่า ตามปกติแล้วจะใช้รับส่งผู้ป่วย ในย่านลาดพร้าว และพื้นที่เขตรอยต่อ จ.ปทุมธานี ซึ่งจากประวัติของผู้ก่อเหตุยังพบด้วยว่า เป็นเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยฯ แห่งหนึ่งอีกด้วย และการใช้รถกู้ชีพฯ ในการขนยาเสพติดในครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยก่อเหตุมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่สามารถรอดพ้นการจับกุมไปได้

พล.ต.ต.ชยานนท์ กล่าวอีกว่า สำหรับ 2 คนร้าย ที่ก่อเหตุขนยาบ้ากว่า 2.4 ล้านเม็ดในครั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่า จะสามารถขออนุมัติหมายจับจากศาลได้ภายใน 1-2 วันนี้ โดยขณะนี้ทางตำรวจทราบตัวผู้กระทำความผิดแล้ว และกำลังเร่งไล่ล่าตัวผู้ก่อเหตุอยู่