"บาเยิร์น มิวนิค" ปลื้มแฟนบอลไทย เปิดสนง.ภูมิภาคอาเซียนในกรุงเทพฯ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ “บาเยิร์น มิวนิค” เป็นสโมสรฟุตบอลเยอรมันที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นหนึ่งในองค์กรกีฬาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก มีสมาชิกเกือบ 300,000 คน ได้เปิดสำนักงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย หลังจากที่ก่อนหน้านี้สโมสรบาเยิร์นได้ขยายสำนักงานสู่นครนิวยอร์กของสหรัฐ ในปี 2557 และนครเซี่ยงไฮ้ของจีน ในปี 2560

กระทั่งในปีนี้ กรุงเทพมหานครได้กลายมาเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของสโมสร ในการสร้างความสัมพันธ์และขยายเครือข่าย กับผู้ที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และโอเชียเนีย ผ่านการดำเนินงานต่างๆ ของสโมสร ไม่ว่าจะเป็น โครงการฟุตบอลเยาวชน งานกิจกรรม แคมเปญพิเศษ และการสร้างพันธมิตรใหม่

- (จากซ้ายไปขวา) โจวานนี เอลแบร์ ตำนานดาวยิงชาวบราซิล, อันเดรอัส ยุง ผู้บริหารอาวุโสด้านการตลาด, แม็กซิมิเลียน ฮาร์สเค่ กรรมการผู้จัดการ สนง.อาเซียน และมอริตซ์ มัตเตส หัวหน้าคณะทำงานของสโมสร -

โอลิเวอร์ คาห์น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของสโมสรบาเยิร์น มิวนิค กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดสำนักงานของเราอย่างเป็นทางการในกรุงเทพฯ รากฐานของเราอยู่ที่มิวนิคและแคว้นบาวาเรีย แต่เป้าหมายของเรา คือการเข้าถึงแฟนๆทั่วโลกได้โดยตรงอย่างยั่งยืน ฟุตบอลเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน และเราดีใจที่สามารถทำให้สโมสรของเราเชื่อมโยงผู้คนเหล่านั้นเข้าหากันได้จริง ด้วยการขยายศูนย์กลางของเราสู่แฟนๆนับล้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

อันเดรอัส ยุง คณะกรรมการบอร์ดผู้บริหารอาวุโส ด้านการตลาดของสโมสรบาเยิร์น กล่าวว่า “เรามีความตื่นเต้นที่จะเปิดตัวแคมเปญระดับภูมิภาคและแผนการตลาดสำหรับสำนักงานใหม่ของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ นอกจากนั้นเรายังรับรู้จากโครงการที่ผ่านมาของเราว่า ชื่อของสโมสรบาเยิร์น ได้การตอบรับเป็นอย่างดี จากแฟน ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ชื่นชอบฟุตบอลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เราหมายมั่นที่จะได้ทำแคมเปญร่วมกับแฟนๆ และพันธมิตรอีกมากมายที่นี่”

ขณะที่ แม็กซิมิเลียน ฮาร์สเค่ กรรมการผู้จัดการสำนักงานฝั่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของสโมสรบาเยิร์น กล่าวว่า “เราให้คำมั่นว่าการขยายมาที่ภูมิภาคนี้จะไม่เป็นเพียงพันธมิตรจากแดนไกล สิ่งสำคัญสำหรับเราคือการสร้างความใกล้ชิดกับแฟนๆและผู้สนับสนุน รวมถึงพัฒนาความสัมพันธ์ใหม่ผ่านการร่วมมือในระดับภูมิภาคอย่างแน่นแฟ้น เราได้มีการเตรียมการมาอย่างดีเป็นเวลามากกว่า 1 ปี สำหรับเปิดสำนักงานในกรุงเทพฯ เพื่อการเริ่มต้นอย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

ฮาร์สเค่ เปิดเผยถึงเหตุผลที่บาเยิร์นเลือกกรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งของสำนักงานประจำภูมิภาคอาเซียนในงานแถลงข่าวว่า รู้สึกปลื้มใจที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มแฟนบอลชาวไทย ไม่ใช่เฉพาะแฟนขาประจำของบาเยิร์นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแฟนบอลที่ชื่นชอบฟุตบอลบุนเดสลีกาด้วย 

บาเยิร์น มิวนิค เป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดทีมหนึ่งของโลกและครองความสำเร็จที่ไม่เคยมีมาก่อน ได้แก่ แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (UEFA Champions League) จำนวน 6 สมัย, แชมป์รายการสโมสรโลก (FIFA Club World Cup) จำนวน 4 สมัย และ แชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี จำนวน 32 สมัย

ในฤดูกาลล่าสุด สโมสรบาเยิร์น ยังเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลเยอรมัน ที่เป็นเจ้าของสถิติแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี 10 สมัยติดต่อกัน นับเป็นความสำเร็จที่ไม่เคยมีมาก่อนในฟุตบอล 5 ลีกชั้นนำของยุโรป อีกทั้งในปี 2563 สโมสรบาเยิร์นได้สร้างประวัติศาสตร์ ชนะการแข่งขัน 6 รายการ ภายในเวลาไม่กี่เดือน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่น้อยทีมจะทำได้ โดยมีเพียงสโมสรฟุตบอล บาร์เซโลนา ที่เคยทำเช่นนี้ได้

นอกจากนี้ สโมสรบาเยิร์น เต็มไปด้วยผู้เล่นนานาชาติชั้นนำ รวมถึงนักเตะทีมชาติเยอรมัน เช่น มานูเอล นอยเออร์ (Manuel Neuer), โธมัส มุลเลอร์ (Thomas Müller) และ โจชัว คิมมิช (Joshua Kimmich) เป็นต้น อีกทั้งสโมสรยังมีอดีตผู้เล่นที่เป็นที่ยอมรับจำนวนมาก โดยมีนักเตะชื่อดังระดับโลกมากมาย เช่น ฟรันทซ์ เบ็คเคินเบาเออร์ (Franz Beckenbauer), แกร์ด มุลเลอร์ (Gerd Müller), โอลิเวอร์ คาห์น (Oliver Kahn) และ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ (Bastian Schweinsteiger)

สโมสรฟุตบอล บาเยิร์น มีคำขวัญคือ “Mia San Mia” แปลว่า “เรา คือ เรา” ด้วยหลักการนี้ ทางสโมสรต้องการเข้าถึงแฟนๆ พันธมิตร และนักฟุตบอลเยาวชนจากทั่วโลก เพื่อถ่ายทอดค่านิยมหลัก เช่น ความสำเร็จ แรงบันดาลใจ และ ความมุ่งมั่นต่อสังคม

ก่อนหน้าที่สโมสรบาเยิร์น มิวนิค จะเปิดสำนักงานอย่างเป็นทางการที่กรุงเทพฯ ทางสโมสรได้มีกิจกรรมต่าง ๆ ที่ดำเนินการในภูมิภาคนี้มาก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเป็น โครงการ FC Bayern Youth Cup ที่เคยจัดที่นี่มาแล้วถึง 3 ครั้ง (ทีมไทยสามารถคว้าถ้วย รอบ World Final ที่มิวนิค กลับบ้านไปได้ถึง 2 ครั้ง), โครงการ FC Bayern World Squad, โครงการ Allianz Junior Football Camp และคอร์สฝึกซ้อมสำหรับเยาวชนชายและหญิง รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นโดยเหล่าพันธมิตรและนักเตะในตำนาน โดยทีมนักเตะชุดใหญ่ของสโมสรได้เดินทางมาเตะเกมปรีซีซันที่สิงคโปร์ ใน กิจกรรม Audi Summer Tour ปี 2560 และสโมสรฟุตบอล บาเยิร์น ยังเคยแข่งกระชับมิตรกับทีมชาติไทย เมื่อปี 2543 อีกด้วย