เผยกำหนดวัน "พระครูบาบุญชุ่ม" ออกจากถ้ำหลวงเมืองแก๊ด หลังปิดวาจาครบ 3 ปี
เผยกำหนดวัน "พระครูบาบุญชุ่ม" เกจิดังล้านนา ออกจากถ้ำหลวงเมืองแก๊ด 31 กรกฎาคม 2565 นี้ หลังปิดวาจาปฏิบัติธรรมครบ 3 ปี
ที่เพจเฟซบุ๊ก "มูลนิธิดอยเวียงแก้ว พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร อรัญวาสีภิกขุ" ได้เผยกำหนดการ "พระครูบาบุญชุ่ม" เกจิดังล้านนา ออกจากถ้ำหลวงเมืองแก๊ด หลังปิดวาจาปฏิบัติธรรมครบ 3 ปี โดยข้อความระบุว่า
กำหนดการออกถ้ำ พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร อรญฺญวาสีภิกขุ จะออกจากถ้ำ วันที่ 31 กรกฎาคม 2565 ปลงผมที่เกาะน้ำรูนั้นแล ให้สร้างหอกุฏิที่พักไว้ จะไปฉันภัตตาหารที่กุฏิมุงคาริมน้ำสิ่ม 5 โมง จะไปที่ถ้ำเล็ก หอ 7 ชั้นนั้นแล
คนที่จะมารับในถ้ำหลวงนี้ มีพระสงฆ์ 23 รูป คฤหัสถ์ลูกศิษย์ชาย ให้มา 38 คน ลูกศิษย์หมวกทองคำให้มาเวลา 07.00 น. ลากรถหอคำให้ห่างกัน 1 วา หญิงลากข้างซ้าย ชายลากข้างขวา พระสงฆ์นำหน้า จะอยู่ 5 วัน แล้วไปเมืองพง (เข้าพรรษาเดือน 10 นั้นแล ที่ไหนยังไม่รู้)
ประวัติ พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร อรญฺญวาสีภิกขุ
พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร อรญฺญวาสีภิกขุ เป็นพระภิกษุฝ่ายอรัญวาสีชาวไทย ผู้ได้รับความเคารพศรัทธาอย่างสูงจากชาวยวน ไทใหญ่ ชาวลาว และชาวภูฏาน
ครูบาบุญชุ่ม เกิดเมื่อวันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2508 เวลา 09.00 น. ที่หมู่บ้านแม่คำหนองบัว ตำบลแม่คำ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เป็นบุตรคนโตของนายคำหล้า และนางแสงหล้า ทาแกง แม้ครอบครัวจะยากจนใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่โยมมารดาก็ปลูกฝังท่านให้ทำบุญ สวดมนต์ ทำสมาธิอยู่เสมอ ทำให้ท่านสนใจออกบวช
หลังจากเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จึงบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2519 ขณะอายุได้ 11 ปี ศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้นักธรรมชั้นตรีในปี พ.ศ. 2526
ต่อมาได้เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2529 เวลา 919 น. ณ อุโบสถวัดพระเจ้าเก้าตื้อ (ปัจจุบันรวมกับวัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่) โดยมีพระราชพรหมาจารย์ (ดวงคำ ธมฺมทินฺโน) เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูเวฬุวันพิทักษ์เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และพระครูศรีปริยัตินุรักษ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
นับแต่ออกบวช "ครูบาบุญชุ่ม" มุ่งเน้นเรียนกรรมฐานจากครูบาอาจารย์หลายองค์ ได้จาริกไปหลายท้องที่ทั้งภาคเหนือของไทย พม่า เนปาล อินเดีย ภูฏาน ฯลฯ เมื่อพบเห็นวัดใดทรุดโทรมก็เป็นผู้นำในการบูรณะ และได้สร้างพระธาตุเจดีย์ วิหาร พระพุทธรูป ไว้หลายแห่งในภาคเหนือ รัฐชาน สิบสองปันนา และประเทศลาว