"อัจฉริยะ" แจ้งเอาผิด "ทนายเดชา" หมิ่นประมาท ลั่นเจอแน่ไม่ต่ำกว่า 15 คดี
"อัจฉริยะ" บุกโรงพักพระประแดงแจ้งดำเนินคดี "ทนายเดชา" ฐานหมิ่นประมาท เผยเจอแน่ไม่ต่ำกว่า 15 คดี ลั่นไม่รับคำขอโทษต้องกราบอย่างเดียว
วันที่ 25 มิถุนายน 2565 เมื่อเวลา 10.00 น. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้นำเอกสารและหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.ประสงค์ อินเสมียน สารวัตรสอบสวน ที่ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เพื่อเอาผิด "ทนายเดชา" ในข้อหาหมิ่นประมาท กรณีกล่าวหาว่าตนไปหลอกลวง "แม่แตงโม" ให้แต่งตั้งเป็นทนาย
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังแจ้งเอาผิด "ทนายเดชา" ในข้อหาหมิ่นประมาท ว่า อีกฝ่ายเขาไปให้สัมภาษณ์กับสื่อช่องหนึ่งว่าตนนั้นไปหลอกลวง "แม่แตงโม" หรือ นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าวันที่มีการแถลงข่าวที่กรรมาธิการคุณแม่ก็เป็นคนแถลงเอง เราก็ได้หนังสือมอบอำนาจโดยชอบ ส่วนเรื่องการที่มาพูดลอย ๆ อย่างนี้และอ้างว่าคุณแม่เป็นคนพูด และมาพูดโดยไม่รับผิดชอบเราก็ต้องใช้สิทธิ์ดำเนินคดี
ซึ่งคดีวันนี้เป็นคดีที่ 5 จากการที่เราได้มีการฟ้องศาลเอง รวมถึงมีการแจ้งความตามโรงพักต่าง ๆ ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะต้องไล่ดำเนินคดีทั้งหมดที่เขาพูดมาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 15 คดี ก็รอรับหมายเรียกได้เลย ซึ่งเราก็จะมีการแจ้งความทั่วประเทศ
นายอัจฉริยะ กล่าวต่ออีกว่า อยากจะเรียนสื่อมวลชนตรง ๆ ว่าเราไม่ใช่คู่ขัดแย้งกัน แต่เนื่องจากเมื่อคืนนี้มีช่องทีวีช่องหนึ่งได้มีการไลฟ์สดให้สัมภาษณ์โดยมีการพาดพิงถึงครอบครัวตน ซึ่งคนที่สัมภาษณ์ก็ได้มีการหัวเราะเยาะเย้ย ฉะนั้นแล้วเขาต้องเป็นผู้ต้องหาร่วม
"การอยากได้เรตติ้งสื่อมวลชนต้องอยู่ภายในกรอบของกฎหมาย แต่ไม่ใช่มาละเมิดลูกเมียผม จะพูดถึงผม ผมไม่ว่า แต่การที่ละเมิดลูกเมียผมถือว่าใช้ไม่ได้ อันนี้ถือว่าคุณเป็นผู้สื่อข่าวที่ไม่มีจรรยาบรรณ เนื่องจากคุณต้องการเรตติ้งอย่างเดียว โดยไม่คำนึงถึงสิทธิส่วนบุคคลของครอบครัวผม ซึ่งลูกผมดูรายการเมื่อคืนก็ไม่สบายใจ รวมถึงภรรยาผมเองก็ไม่สบายใจ ผมไม่อยากฟ้องสื่อ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีการฟ้องมาแล้วในคดีที่มีการพาดพิงแบบนี้และเรื่องก็อยู่ระหว่างอัยการ ซึ่งคดีนี้ก็เหมือนกัน
ผมก็ต้องขอโทษทีวีช่องนั้นด้วย ผมจำเป็นต้องทำเพราะผมเสียหาย การที่มากล่าวหาเมียกับลูกผมแบบนี้มันเป็นสิ่งที่เรารับไม่ได้ คือถ้ามันมีอะไรก็มาคุยกับผม ลงกับผม แต่อย่าไปลงกับครอบครัวผม ซึ่งเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ดังนั้นก็ต้องแจ้งนักข่าวไว้เลยว่าถ้าทำอีก จะนักข่าวช่องไหนก็แล้วแต่ ถ้าต้องการเรตติ้งคุณก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่คุณทำด้วย ผมพูดตรง ๆ ผมบังคับใช้กฎหมายเท่าที่ผมทำได้ตามกฎหมาย"
นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ เผยว่าจะไม่รับคำขอโทษจากทนายคนดัง ต้องกราบอย่างเดียว ในเมื่อเขาบอกว่าเสื้อเขา ตำรวจกลัวเขาทั้งประเทศ อันนี้ก็เป็นการดูถูกเหยียดหยามตำรวจทั้งประเทศ เพราะว่าเขาบอกเองว่าถ้าใครซื้อเสื้อเขาไปใส่ ตำรวจทางโรงพักเกรงใจเขาหมด ผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าท่าน ผบ.ตร. จะปล่อยให้โรงพักต่าง ๆ ทั่วประเทศเป็นแบบที่เขาพูดไหม ใส่เสื้อแล้วไปโรงพักต่าง ๆ ตำรวจจะไม่กล้าดำเนินคดี ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่ต้องพึ่งพากฎหมายไทยแล้ว คงใช้ศาลเตี้ยกันหมดแล้ว
นายอัจฉริยะ กล่าวทิ้งท้ายว่า เรื่องคดีแตงโมนั้นตนก็คงต้องรอให้ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2565 ว่าทางคุณแม่จะถอนหรือไม่ ถ้าแม่ถอนคดีก็จบ ส่วนหลักฐานที่ตนมีก็จะเก็บเอาไว้เพื่อสู้คดี เพราะยังไงคนบนเรือก็ฟ้องตนอยู่แล้ว ก็ต้องไปสู้กันในศาล
ข่าวโดย สุธินันท์ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ