ผบ.ตร.ยอมรับ ไร้ข้อสรุปคุมกัญชาเสรี ชี้ช่องเอาผิดฐานอื่นๆ

     สถานการณ์หลังปลดล็อกกัญชาเสรี จนมีการค้าขายกัญชาตามสถานที่สาธารณะต่างๆ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว ใน กทม.ตั้งแผงขายกัญชามวน หรือ พันลำ และมีการสูบในที่สาธารณะ กลายเป็นกระแสที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง      

     ล่าสุด (1 ก.ค.2565) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เรียกประชุมตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เรื่องการบังคับใช้กฎหมายหลังปลดล็อกกัญชา โดยมีตำรวจสังกัด บช.น. ประกอบด้วยกองบังคับการตำรวจนครบาล 1-9 (บก.น.1-9) และสถานีตำรวจนครบาล 88 สน. เข้าร่วมประชุม

     หลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.อ.สุวัฒน์ เปิดเผยว่า ณ วันนี้ได้มีการพูดคุยกับหลายภาคส่วน สรุปได้สั้นๆว่า ในฐานะผู้บังคับใช้กฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพิจารณากฎหมายอื่นเพื่อเป็นแนวทางให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปควบคุมกำกับดูแล ให้เกิดความสงบเรียบร้อยในสังคม 

     กฎหมายที่กำลังดูอยู่นั้น ตำรวจไม่ได้เป็นผู้รักษาการโดยตรงตามกฎหมาย อย่างเช่น พ.ร.บ.สาธารณสุข ในกรณีที่มีการสูบกัญชาที่ทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ ตำรวจจะเป็นผู้ประสานงาน กับพนักงานเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้ หรือกฎหมายเกี่ยวกับการตั้งวางจำหน่ายของบนทางเท้าก็เป็นอำนาจทางเทศกิจ ซึ่งทางตำรวจก็จะประสานไปยังทางเทศกิจให้ดูแลตรวจสอบ หรือกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองเด็ก ถ้ามีการนำของที่เป็นอันตรายไปยุยงส่งเสริม ก็เป็นความผิดทางอาญา โดยในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังพิจารณาในหลายประเด็น 

    ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีการวางจำหน่าย หรือการแปรรูป ก็กำลังพิจารณาอยู่ว่า จะให้มีการขอใบอนุญาตจำหน่ายหรือแปรรูปหรือไม่ ทั้งนี้ฝากเตือนไปยังผู้ประกอบการให้พิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพราะทางเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบในประเด็นเหล่านี้อยู่ อย่างไรก็ตาม ต้องรอกฎหมายที่กำลังจะออกมา เพื่อให้เกิดความขัดเจนมากขึ้น
    

     ด้าน พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึงกรณีบุคคลที่โชว์การสูบกัญชาโดยใช้บ้อง ในพื้นที่สีลมซอย 4 ที่ปรากฎในคลิปเผยแพร่ว่า เบื้องต้นพิสูจน์ทราบตัวบุคคลแล้ว แต่อยู่ระหว่างพิจารณาข้อกฎหมาย ส่วนพื้นที่ สน.ชนะสงคราม ตั้งโต๊ะขายแล้วตำรวจตักเตือนยังทำต่อนั้น ตำรวจจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องข้อกฎหมายอื่นๆ ดำเนินการ ตำรวจดำเนินการเบื้องต้นข้อหาเดือดร้อนรำคาญ 

     ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความกังวลหรือไม่ ผบช.น.กล่าวว่า ตำรวจไม่มีความกังวลกรณีดังกล่าว แต่จะดำเนินการตามข้อกฎหมาย หากมีการกระทำความผิด อย่างไรก็ตาม หากมียาเพสติดอื่นผสมอยู่ ก็จะดำเนินคดีตามการกระทำความผิด นับตั้งแต่วินาทีนี้ มีการเปิดค้าขาย มอบหมายให้ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น.ดูแลยาเสพติด ตรวจสอบ หากพบมีความผิดกฎหมาย

   ด้าน พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผบช.น. ดูแลด้านกฎหมายและคดี กล่าวว่า กรณีจำหน่ายกัญชาตั้งบ้องพันรำนั้น ทำไม่ได้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข สูบที่สาธารณะมีกลิ่นหรือควันทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ 

    ส่วนผับ บาร์ ผู้สูบก่อความเดือดร้อนรำคาญ ทางเจ้าพนักงานสามารถยับยั้งได้ เจ้าของสถานประกอบการอนุญาตให้สูบ แต่หากทำให้เกิดความเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการร่วมกับหน่วยเจ้าพนักงานทางปกครองท้องถิ่นกรณีดังกล่าว หากมีการตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินการตามกฎหมาย 
   

     พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า ส่วนการตั้งร้าน ต้องพิจารณาข้อกฎหมายอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ผู้จำหน่ายสมุนไพรควบคุม ต้องมีการขอใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข และต้องระมัดระวังว่า มีการกระทำผิดกฎหมายมาตรานี้หรือไม่ หากกระทำความผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายดังกล่าว

    พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น.(รับผิดชอบงานยาเสพติด) ในฐานะรองโฆษก บช.น. กล่าวว่า จะต้องมีการสำรวจว่า สูบกัญชาพันลำ มีผลอะไรต่อร่างกาย มีค่าอะไรเกินหรือไม่ เพราะบุหรี่ยังต้องได้รับอนุญาตเลย ขณะนี้กัญชายังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลง มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ  ตำรวจต้องกลับมาคิดว่า การเสพกัญชาเกินขนาด จนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จะเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ในอนาคตหรือไม่ ในเมื่อกฎหมายบอกว่าไม่ใช่ยาเสพติดประเภท 5 แต่อย่าลืม มีการร้องเรียน "สูบกัญชาก่อความเดือดร้อนรำคาญ" 

   ทั้งนี้ พล.ต.ท.สำรวญ นวลมา ผบช.น. นำโปลิศ 4.0 มาขับเคลื่อนต่อ โดยตนได้สั่งการฝ่ายสืบสวนทั้ง 88 สน. ลงพื้นที่เก็บข้อมูลผู้จำหน่าย เพื่อเฝ้าระวังเหตุอาชญากรรม ถ้ามีการกำหนดมาตรการ หรือออกกฎหมายที่ให้ตำรวจควบคุม ตนคิดว่าเป็นเรื่องดี

    ส่วนกรณี สำนักงานเขตพระนครลงพื้นที่ตรวจสอบ และพบการขายกัญชาบนทางเท้าถนนข้าวสาร ผบช.น.มองว่า มีกฎหมาย พ.ร.บ.ความสะอาดฯ พ.ร.บ.จราจรทางบก ทางกรุงเทพมหานครเปิดให้ลงทะเบียนขออนุญาต ก็ไปทำให้ถูกต้องตามมาตรการโซนนิ่ง และถ้ากฎหมายออกมาว่าส่วนผสมอันไหนผิด ไม่ผิด เช่น ฝิ่น ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการล่อซื้อ แล้วนำมาตรวจสอบ 

    ส่วนกัญชาอัดแท่ง ตำรวจสามารถดำเนินการสกัดกั้นกัญชาจากต่างประเทศได้ เพราะเป็นความผิดฐาน “ลักลอบนำเข้า” ถ้าอ้างว่าอยู่ในมือคนไทยแล้ว กำลังลำเลียงมา ตนยังค้านอยู่ โดยล่าสุด จับกุมการลักลอบนำกัญชาเข้าประเทศแล้วกว่าไป 500 กก. ขณะข้ามแม่น้ำเข้ามายังประเทศไทย