"กรมอุตุ" เตือน ฉ.11 พายุทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่นชบา กระทบไม่น้อยกว่า 30 จว.
"กรมอุตุนิยมวิทยา" ประกาศฉบับที่ 11 พายุไต้ฝุ่น "ชบา" มีผลกระทบจนถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2565 เมื่อเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา พายุโซนร้อนกำลังแรง "ชบา" (CHABA) ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นแล้ว กระทบไม่น้อยกว่า 30 จว.
"กรมอุตุนิยมวิทยา" ประกาศฉบับที่ 11 "พายุไต้ฝุ่น ชบา" มีผลกระทบจนถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2565 เมื่อเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา พายุโซนร้อนกำลังแรง "ชบา" (CHABA) ที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นแล้ว และเมื่อเวลา 10.00 น. มีศูนย์กลางอยู่ที่ ละติจูด 20.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.6 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้เคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 15 กม./ชม. คาดว่าในช่วงวันที่ 2–3 ก.ค. 65 จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "กรมอุตุ" ประกาศ ฉ.10 พายุโซนร้อนกำลังแรง "ชบา" คาด 38 จว.ฝนตกหนักถึงหนักมาก
อนึ่ง ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ภาคเหนือตอนบน เข้าพายุไต้ฝุ่น "ชบา" ที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง
ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรงโดย
- ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
- อ่าวไทยตอนบนทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 6 ก.ค.2565
จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้
- ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน และอุตรดิตถ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
- ภาคกลาง : จังหวัดอุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร
- ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้ : จังหวัดระนอง และพังงา
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา หรือที่ 0-2399-4012-13 และ สายด่วน 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกาศ ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2565 เวลา 11.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา จะออกประกาศฉบับต่อไปในเวลา 17.00 น.