"หมอยง" ชี้น่าห่วง! โควิด-19 รอบนี้ "นักเรียน" จะเป็นผู้ขยายและกระจายโรค
"หมอยง" ชี้น่าห่วง! โควิด-19 รอบนี้ "นักเรียน" จะเป็นผู้ขยายและกระจายโรค การระบาดของโรคมากขึ้น แต่ไม่ควรปิดโรงเรียนโดยไม่จำเป็น ควรมุ่งเน้นมาตรการป้องกันโรคในโรงเรียนมากกว่า
วันที่ 6 กรกฎาคม 2565 "หมอยง" ศ.นพ. ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความระบุว่า "นักเรียน" จะเป็นผู้ขยายและกระจายโรคโควิด-19
ศ.นพ. ยง ภู่วรวรรณ หรือ "หมอยง" เผยว่า โควิด-19 "นักเรียน" จะเป็นผู้ขยายและกระจายโรค การระบาดของโรคมากขึ้น เช่นเดียวกันกับโรคทางเดินหายใจอื่น เช่น ไข้หวัดใหญ่ การระบาดของโรคจะพบสูงมากในช่วงเปิดเทอม หรือ ฤดูฝน เด็กนักเรียนจะรับเชื้อและติดต่อกันง่าย มันเป็นเช่นนั้นทุกปีของโรคทางเดินหายใจ
โควิด-19 ก็เช่นเดียวกัน เมื่อมีการเปิดเทอม ทำให้การเพิ่มกระจายของโรคเพิ่มขึ้น
ความรุนแรงของโรคในเด็กนักเรียน และวัยรุ่น น้อยมาก แต่จะติดต่อกันเองและนำเชื้อกลับบ้าน ทำให้เกิดการติดต่อทั้งครอบครัว ซึ่งจะโยงไปถึงกลุ่มผู้สูงอายุ
อัตราการเสียชีวิตในเด็กนักเรียนที่แข็งแรงดีโดยเฉพาะที่อายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป จะมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 1 ในหมื่น การเสียชีวิตหรือรุนแรงในเด็กส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัว โรคเรื้อรังหรือกลุ่มเสี่ยง ในเด็กกลุ่มที่จะเป็นอันตรายส่วนใหญ่จะอายุน้อยกว่า 2 ปี
หมอยง ระบุต่อว่า การเรียนการศึกษามีความสำคัญอย่างยิ่ง ชีวิตต้องเดินหน้า การไปโรงเรียนของเด็กมีความสำคัญต่อระบบการศึกษาของประเทศ และยังช่วยเรื่องโภชนาการของเด็กต่างจังหวัด มาตรการในการป้องกันและลดการแพร่กระจายของเชื้อ มีความสำคัญยิ่งในโรงเรียน เช่น สุขอนามัย การล้างมืออยู่เป็นนิจและถูกวิธี ลดการรับประทานอาหารร่วมกัน ใส่หน้ากากอนามัย การกำหนดระยะห่างในช่วงที่มีการระบาดมาก
ประเทศสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับการศึกษามาก ตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบันแทบจะไม่มีการปิดเรียนเลย ใครป่วยก็ควรอยู่บ้าน เมื่อหายดีก็กลับมาเรียน ทุกคนเคร่งครัดระเบียบวินัย
ทุกคนต้องยอมรับความจริง และสนับสนุนการศึกษาให้ได้เดินหน้าต่อไป ร่วมใจกันปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด และไม่ควรปิดโรงเรียนโดยไม่จำเป็น ควรมุ่งเน้นมาตรการป้องกันโรคในโรงเรียนมากกว่า