บขส. เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางในช่วง "วันหยุดเดือนกรกฎาคม 2565"
บขส. เตรียมความพร้อม "วันหยุดยาว" รองรับการเดินทางในช่วง "วันหยุดเดือนกรกฎาคม 2565" คาดมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาวันละกว่า 3 หมื่นคน
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2565 นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในเดือนกรกฎาคม 2565 รัฐบาลได้ประกาศให้วันที่ 15 และวันที่ 29 กรกฎาคม 2565 เป็นวันหยุดราชการ กรณีพิเศษส่งผลให้ช่วง วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษามีวันหยุดยาวต่อเนื่อง 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 - 17 กรกฎาคม 2565 และวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 มีวันหยุดยาวต่อเนื่อง 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 - 31 กรกฎาคม 2565
โดย บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) คาดการณ์ว่า ในช่วง "วันหยุดยาว" ดังกล่าวจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาในต่างจังหวัดและเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก จึงได้มีการเตรียมความพร้อมจัดรถโดยสารของ บขส. และรถร่วมบริการฯ ไว้ให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน
ทั้งนี้ คาดว่า ในช่วง "วันหยุดเดือนกรกฎาคม 2565" ในเที่ยวไปจะมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละ 34,000 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส. รถร่วม รถตู้) เฉลี่ยวันละ 2,800 เที่ยว ส่วนเที่ยวกลับ คาดว่ามีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ยวันละ 33,000 คน ใช้รถโดยสารประมาณ 3,000 เที่ยว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เพื่อให้การจัดรถโดยสารเป็นไปอย่างเพียงพอ บขส. ได้ทำหนังสือขออนุญาตต่อนายทะเบียน กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ให้เจ้าของรถร่วมฯ นำรถโดยสารไม่ประจำทาง หรือ รถทะเบียน 30 (ประมาณ 200 คัน) มาวิ่งเสริมในเส้นทาง ระหว่างวันที่ 12 - 18 กรกฎาคม 2565 และระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม 2565
ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถจองตั๋วล่วงหน้า ผ่านช่องทางการจำหน่ายตั๋วของ บขส. อาทิ Application E-Ticket เว็บไซต์ บขส. เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว บขส. เคาน์เตอร์เซอร์วิส และตัวแทนจำหน่ายตั๋วของ บขส. ทั่วประเทศ สำหรับลูกค้าสมาชิก บขส. Card เมื่อซื้อตั๋วโดยสาร บขส. จะได้รับส่วนลด 5% และเมื่อซื้อตั๋วโดยสารเดินทางในช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 ผ่านช่องทางออนไลน์จะได้รับคะแนนสะสมคูณสอง
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. กล่าวเพิ่มเติมว่า บขส. พร้อมอำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา และได้ดำเนินการตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ได้กำชับให้ บขส. ดูแลประชาชนให้ได้รับบริการที่สะดวก ปลอดภัย และได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติตามมาตรการ 4 พร้อม คือ
- รถโดยสารพร้อม
- คนพร้อม
- สถานีพร้อม
- บริการพร้อม
ควบคู่ไปกับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างเคร่งครัด จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น เชื่อว่าจะทำให้ประชาชนหันมาเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น ประกอบกับ บขส. ยังไม่ได้ปรับขึ้นค่าโดยสารตามมติของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางที่ให้รถโดยสารหมวด 2 และหมวด 3 ขึ้นค่าโดยสารกิโลเมตรละ 5 สตางค์ ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา
โดย บขส. จะตรึงราคาค่าโดยสารในอัตราเดิมไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน สอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ call center 1490 เรียก บขส. ตลอด 24 ชั่วโมง