รอง ผบ.ทสส. รุดตรวจชายแดนไทย-เมียนมา ติดตามสถานการณ์สู้รบ!
รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตรวจการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา อ.พบพระ จ.ตาก เสียงปืนยังสงบ แต่ด้าน "แม่สอด" ทหารเมียนมา ปะทะ ฝ่ายต่อต้าน ตาย 5 นาย
วันที่ 9 กรกฎาคม 2565 พลเอกสุภโชค ธวัชพีระชัย รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด (รอง ผบ.ทสส.) พร้อมด้วยคณะฯ ได้เดินทางโดยเครื่องบินไปที่ท่าอากาศยานแม่สอด ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก จากนั้นเดินทางโดยรถยนต์ไปตรวจสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ที่บ้านวาเล่ย์ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก โดยมีพันเอกประสาน เห็นประเสริฐ รองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร และพันเอกณรงค์ชัย เจริญชัย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 อ.แม่สอด ให้การต้อนรับ
และบรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมาที่ผ่านมา เช่น สถานการณ์การสู้รบ และกรณีบินรบทหารเมียนมาล้ำเข้ามาในน่านฟ้าไทย ตลอดจนผลกระทบและความเสียหายที่เกิดขึ้นกับราษฎรไทยในพื้นที่ รวมถึงสภาพภูมิประเทศแนวชายแดนไทย-เมียนมา และการปฏิบัติหน้าที่ของทหารในพื้นที่
รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การสู้รบระหว่าง "ทหารเมียนมากับฝ่ายต่อต้าน" ที่มีกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู.) กองกำลังเคเอ็นดีโอ. และกองกำลังพีดีเอฟ. ว่า ยังคงมีการสู้รบกันอยู่ในเขตชายแดนด้านตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก
โดยล่าสุดทหารเมียนมาได้ปะทะกับฝ่ายต่อต้านบริเวณผางช้างเผือกใกล้เกาะมะนาว ตรงข้ามบ้านห้วยมหาวงศ์ ต.มหาวัน อ.แม่สอด ทำให้ทหารเมียนมาเสียชีวิต 5 นาย การสู้รบเกิดขึ้นขณะที่ฝ่ายทหารเมียนมากำลังเดินทางตามช่องเขา และพบกับฝ่ายเคเอ็นยู. จึงเกิดการปะทะกันนาน 15 นาที
ขณะที่ทางด้าน อ.พบพระ การสู้รบยังเงียบสงบ ทหารเมียนมายังคงเข้มงวดการเฝ้าระวังค่ายอูเกรทะ บ้านอูเกรทะ อ.สุวารี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ตรงข้ามตำบลวาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก
ทั้งนี้ ทหารเมียนมาได้เสริมกำลังไปที่บ้านผาลูใหญ่ และตั้งฐานปืนค.120 เพื่อยิงใส่ฝ่ายกะเหรี่ยงบริเวณผาช้างเผือก และได้จัดกำลัง 300 นาย จะไปทางด้านตรงข้ามบ้านช่องแคบ อ.พบพระ เพื่อเสริมกำลังต่อไปยังค่ายอูเกรทะ ทำให้ผู้ลี้ภัยนับ 1,000 คน อาจจะข้ามแดนเข้ามาเขตไทยที่บริเวณเกาะมะนาวหากมีการสู้รบหนัก เนื่องจากผู้ลี้ภัยส่วนมากได้ลี้ภัยออกมาทำเพิงพักที่อยู่อาศัยบริเวณแม่น้ำเมย ตรงข้ามบ้านแม่โกนเกน
ข่าวโดย สมจิตร รุ่งจำรัสรัศมี จ.เชียงใหม่