เช็กพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม - น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมแรง (10 ก.ค.65)
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 2 จังหวัด และวาตภัยใน 4 จังหวัด ประสานดูแลและเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย
เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 64 เวลา 09.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานจากอิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้
โดยเมื่อวันที่ 9 – 10 ก.ค. 65 ได้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น และจันทบุรี รวม 2 อำเภอ 3 ตำบล 3 หมู่บ้าน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ปัจจุบันสถานการณ์ภาพรวมระดับน้ำลดลง นอกจากนี้ ยังได้เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา และกระบี่ รวม 16 อำเภอ 32 ตำบล 58 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 275 หลัง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย (นครศรีธรรมราข) ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากอิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
โดยเมื่อวันที่ 9 – 10 ก.ค. 65 ได้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น และจันทบุรี รวม 2 อำเภอ 3 ตำบล 3 หมู่บ้าน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต แยกเป็น
1. ขอนแก่น เกิดอุทกภัยในพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่น รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน
2. จันทบุรี เกิดอุทกภัยในพื้นที่อำเภอแก่งหางแมว รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน
ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย สถานการณ์ภาพรวมระดับน้ำลดลง
นอกจากนี้ ยังได้เกิดสถานการณ์วาตภัยในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา และกระบี่ รวม 16 อำเภอ 32 ตำบล 58 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 275 หลัง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย แยกเป็น
1. สุราษฎร์ธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพระแสง และอำเภอเวียงสระ รวม 3 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 35 หลัง
2. นครศรีธรรมราช เกิดวาตภัยในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอทุ่งใหญ่ อำเภอนาบอน อำเภอทุ่งสง อำเภอบางขัน อำเภอฉวาง และอำเภอช้างกลาง รวม 11 ตำบล 12 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 118 หลัง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย
3. พังงา เกิดวาตภัยในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพังงา อำเภอท้ายเหมือง อำเภอเกาะยาว อำเภอกะปง อำเภอตะกั่วทุ่ง อำเภอคุระบุรี และอำเภอทับปุด รวม 17 ตำบล 33 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 114 หลัง
4. กระบี่ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเขาพนม รวม 1 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 8 หลัง
สำหรับการแก้ไขปัญหา และให้การช่วยเหลือประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย และสำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ. รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง