"การส่งใบสั่งทางไปรษณีย์" หากพ้น 15 วัน ถือว่าเจ้าตัวได้รับแล้ว
ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศ ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุให้ “การส่งใบสั่งทางไปรษณีย์”ให้พนักงานจราจรส่งใบสั่งลงทะเบียน พร้อมพยานหลักฐานภายใน 30 วัน หากพ้น 15 วัน ถือว่าเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถได้รับใบสั่งแล้ว มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 13 ก.ค. 2565 เป็นต้นไป
เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศ ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วย การส่งใบสั่งทางไปรษณีย์ พ.ศ. 2565 โดยที่มาตรา 14 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2562 บัญญัติให้กรณีเจ้าพนักงานจราจรที่ออกใบสั่ง ไม่พบตัวผู้ขับขี่ ให้ติด ผูก หรือแสดงใบสั่งไว้ที่รถที่ผู้ขับขี่สามารถเห็นได้ง่าย
หากไม่สามารถติด ผูก หรือแสดงใบสั่งไว้ที่รถได้ไม่ว่าด้วยเหตุใด ให้ส่งใบสั่งพร้อมด้วยพยานหลักฐานโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปยังภูมิลำเนาของเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองเพื่อให้ชำระค่าปรับภายในระยะเวลาที่กำหนดในใบสั่ง ทั้งนี้ ให้ใช้บังคับกับกรณีที่เจ้าพนักงานจราจรพบการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบกหรือกฎหมายอื่นอันเกี่ยวกับรถหรือการใช้ทาง แต่ไม่อาจทราบตัวผู้ขับขี่ โดยอนุโลม
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 140 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2562 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการส่งใบสั่งทางไปรษณีย์ พ.ศ. 2565”
ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค. 2565 เป็นต้นไป
ข้อ 3 การส่งใบสั่งตามมาตรา 140 วรรคสอง กรณีเจ้าพนักงานจราจรที่ออกใบสั่งไม่พบตัวผู้ขับขี่และไม่สามารถติด ผูก หรือแสดงใบสั่งไว้ที่รถได้ไม่ว่าด้วยเหตุใด และตามมาตรา 140 วรรคสาม กรณีไม่อาจทราบตัวผู้ขับขี่ ให้ส่งใบสั่งพร้อมพยานหลักฐานโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ไปยังภูมิลำเนาของเจ้าของรถ หรือผู้ครอบครองรถ ภายในระยะเวลาสามสิบวันนับแต่วันที่เจ้าพนักงานจราจรพบการกระทำความผิด และให้ถือว่าเจ้าของรถ หรือผู้ครอบครองรถได้รับใบสั่งนั้น เมื่อพ้นกำหนด สิบห้าวัน(15วัน) นับแต่วันส่ง
ประกาศ ณ วันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2565