อัปเดตล่าสุด! ตร.ยิงสกัดชายคลุ้มคลั่งพกระเบิด ขณะตัวประกันวิ่งหนี เคลียร์ระทึกจบแล้ว
เหตุด่วน! อัปเดตล่าสุด ตร.ยิงสกัดชายคลุ้มคลั่งพกระเบิด ขณะตัวประกันวิ่งหนี เคลียร์ระทึกจบแล้ว นำตัวส่งโรงพยาบาล
อัปเดตล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่และตำรวจกำลังทำการเกลี้ยกล่อมให้คนร้ายปล่อยตัวประกันและให้วางระเบิดลง ในระหว่างที่ผู้ก่อเหตุเผลอ หญิงสูงวัยที่เป็นตัวประกันได้อาศัยจังหวะนั้นวิ่งหนี ออกมาจากจุดที่ถูกคนร้ายควบคุมตัวเอาไว้ ซึ่งคนร้ายก็ได้วิ่งตามออกมา แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงสกัดเอาไว้ จนทำให้คนร้ายล้มลง โดยในมือยังกำลูกระเบิดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงทำการเข้าชาร์จตัวทันที พร้อมกับทำการจัดเก็บลูกระเบิดจากคนร้ายได้สำเร็จ
กรณีหนุ่มเก็บขอบเก่าเข้าไปลักทรัพย์ภายในพิพิธภัณฑ์ขอนแก่น ถูกตำรวจสายตรวจเรียกตรวจค้น ก่อนจะวิ่งหนีแล้วหยิบระเบิดลูกเกลี้ยงออกจากกระเป๋า พร้อมกับจับชาวบ้านเป็นตัวประกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งเกลี้ยกล่อม
วันที่ 14 กรกฎาคม 2565 ที่บริเวณปากซอยชุมชนเทพารักษ์ 4 ถ.หลังศูนย์ราชการ เขตเทศบาลนครขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการกันพื้นที่พร้อมปิดเส้นทางการจราจร หลังมีเหตุชายใช้อาวุธระเบิดจับชาวบ้านเป็นตัวประกัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเกลี้ยกล่อม
จากการสอบถามตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตำรวจได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายเข้าลักทรัพย์ภายในพิพิธภัณฑ์ขอนแก่น โดยขับรถจักรยานยนต์พร้อมมีรถเข็นพ่วงท้าย จากนั้นตำรวจสายตรวจได้ตามมาถึงบริเวณชุมชนเทพารักษ์4 ก่อนจะขอตรวจค้น
โดยทราบชื่อชายคนดังกล่าวชื่อเล่นว่าชัย เมื่อตำรวจค้นที่รถเข็นเสร็จแล้วได้ขอค้นกระเป๋าสะพายข้าง แต่นายชัย ได้ปฏิเสธ ก่อนจะมีการวิ่งไล่จับ จากนั้นนายชัยได้เปิดกระเป๋าพร้อมควักระเบิดออกมา โดยได้ใช้นิ้วสอดเข้าไปในสลัก จากนั้นได้วิ่งไปที่ร้านซ่อมจักรยานยนต์ พร้อมจับหญิงสูงวัยมาเป็นตัวประกัน
ขณะนี้ พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้พยามยามเกลี้ยกล่อม โดยตำรวจ EOD ได้นำหุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิด มาเตรียมพร้อมเผื่อเกิดเหตุรุนแรง
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. ตำรวจสืบสวนกลาง เผย คนร้ายใช้อาวุธปืนและระเบิด ก่อเหตุจับตัวประกัน บริเวณ ซอยชุมชนเทพารักษ์ 4 ถนนหลังศูนย์ราชการ จ.ขอนแก่น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ระหว่างควบคุมสถานการณ์ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางดังกล่าว