หนีตายไฟไหม้ แม่ค้าเผยนาทีชีวิต คอหวยแห่ซื้อเลขเด็ดเกลี้ยง "งวดนี้ 16/7/65"
แม่ค้าเสื้อผ้าตลาดนัด เผยนาทีฝ่าเปลวเพลิงหนีตาย พลังจักรวาลช่วยดันรถคู่ชีพ คอหวยแห่ซื้อทะเบียนรถเกลี้ยง "เลขเด็ดงวดนี้ 16/7/65"
เผยนาทีฝ่าเปลวเพลิงหนีตาย เชื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจร พลังจักรวาลช่วยดันรถคู่ชีพ คอหวยแห่ซื้อทะเบียนรถเกลี้ยง "เลขเด็ดงวดนี้ 16/7/65" เจอสร้อยทองไม่ไหม้ในกองเพลิง
จากกรณี เกิดเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 113 หมู่ 19 บ้านน้อยนาคำ ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม เวลาประมาณ 23.30 น. วันที่ 13 กรกฎาคม 2565 ซึ่งเป็นบ้านของนางมุทิตา หรือ นก อายุ 42 ปี แม่ค้าขายเสื้อผ้ามือสองตามตลาดนัด ที่หนีเอาชีวิตรอดหยิบมาได้แค่โทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียว ทรัพย์สินอื่นๆ สูญสลายไปกับกองเพลิงจนสิ้น โดยเจ้าหน้าที่จาก อบต.บ้านผึ้ง, อบต.กุรุคุ, กู้ภัยศรีสัตตนครพนม งานป้องกันฯเทศบาลเมืองนครพนม ระดมรถดับเพลิงเข้าควบคุมจนอยู่ในวงจำกัด และใช้เวลาประมาณ 30 นาที สามารถควบคุมเพลิงสงบลงได้
ล่าสุด วันที่ 14 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านชั้นเดียว ใช้ไม้เป็นเสาก่อด้วยอิฐบล็อก โครงสร้างด้านบนเป็นไม้ มุงหลังคาสังกะสี ต้นเพลิงอยู่บริเวณกลางบ้าน ขณะที่นางมุทิตาหรือนกเจ้าของบ้าน ได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อเข่าขวาบวมเคล็ด จากการร่วมกับญาติและเพื่อนบ้านช่วยกันเข็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน สีเทาดำ ทะเบียน กง 9860 นครพนม ที่คาเบรกมือออกจากที่จอดอยู่ตรงหน้าบ้านเพื่อหนีเพลิงที่โหมไหม้ได้อย่างหวุดหวิด
โดยเผยรายละเอียดว่า บ้านหลังนี้อยู่ด้วยกัน 3 คน ประกอบด้วยตนและแม่ชื่อนางคำ อายุ 81 ปี ส่วนลูกสาวชื่อน้องส้มอายุ 19 ปี กำลังเรียนระดับ ปวส.1 และทำงานร้านอาหารแบบพาร์ทไทม์ (part time) เพื่อหาทุนเรียนหนังสือ เป็นการช่วยเหลือครอบครัวอีกทางหนึ่ง จึงเช่าหอพักอยู่ในตัวเมืองนครพนม แต่ลูกสาวก็ไป ๆ มา ๆ เยี่ยมบ้านเสมอ ส่วนตนจะขับรถยนต์คู่ใจตระเวนขายเสื้อผ้าตามตลาดนัดทั่วไป
วันเกิดเหตุ นางคำผู้เป็นแม่ไปจำศีลนอนอยู่ที่วัดในหมู่บ้าน เนื่องในวันอาสาฬหบูชา ที่บ้านจึงเหลือแต่ตนเพียงผู้เดียว หลังจุดธูปสวดมนต์เสร็จเรียบร้อยก็เข้านอนช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ขณะหลับสนิทต้องสะดุ้งตื่นเพราะได้กลิ่นเหม็นไหม้และเสียงคล้ายถ่านแตก พอเปิดประตูห้องออกมาก็เจอเปลวไฟกำลังลุกไหม้อยู่กลางบ้าน จึงคว้าได้เพียงโทรศัพท์มือถือวิ่งออกมาร้องขอความช่วยเหลือจากญาติ ๆ ช่วยกันดับไฟ ซึ่งตอนนั้นรถยนต์จอดอยู่หน้าบ้านใส่เบรกมืออย่างดี ส่วนกุญแจแขวนไว้ที่เสาบ้านไม่สามารถฝ่าเปลวเพลิงเข้าไปเอาได้ จึงช่วยกันหลาย ๆ คนเข็นรถหนีออกจากบริเวณนั้นได้อย่างทุลักทุเล
นางนกเล่าเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปหมาด ๆ ด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า เพิ่งจะไปรับเสื้อผ้าชุดใหม่ที่จังหวัดอุดรธานี มาไว้ในบ้าน มูลค่ากว่า 50,000 บาท รวมเสื้อผ้าที่ยังขายไม่หมดอีกราว 30,000 กว่าบาท และกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้ไฟไหม้ลามอย่างรวดเร็ว ส่วนสาเหตุนางนกยอมรับว่าในบ้านมีเต้าไฟที่เสียบพ่วงกับอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายอย่าง เช่น ตรงจุดที่เกิดประกายไฟอยู่เสากลางบ้านเสียบปลั๊กตู้เย็นร่วมกับปลั๊กพัดลมและตู้แช่เย็น เพราะเมื่อก่อนเปิดเป็นร้านขายของชำ ประกอบกับตัวบ้านสร้างมาเกือบ 20 ปี สายไฟก็เก่าไม่ได้เปลี่ยน จึงเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรเป็นเหตุให้ไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง
ต่อมานายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอเมืองนครพนม พร้อมด้วยนายจักรพล เที่ยงภักดิ์ ปลัดฯฝ่ายป้องกัน เข้ามาตรวจความเสียหาย และมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น โดยจะมอบหมายให้นางฉวีวรรณ ขันทะวิชัย กำนัน ต.บ้านผึ้ง ตรวจสอบข้อมูลและรวบรวมเอกสารสำคัญในการขอความช่วยเหลือจากทางราชการ พร้อมให้ประสานกับนายสมบูรณ์ นาคะอินทร์ นายก อบต.บ้านผึ้ง ในการหาทางช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ด้านนายคำพอง เหล่าแสลง อายุ 42 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 บ้านน้อยนาคำ เปิดเผยว่าสาเหตุน่ามาจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะสายไฟมีสภาพเก่า อีกทั้งต่อพ่วงกับอุปกรณ์อื่นร่วมด้วย จึงให้ลูกบ้านมั่นตรวจสอบสายไฟภายในบ้าน ถ้าชำรุดเสียหายควรรีบเปลี่ยน และใช้สายไฟที่ได้มาตรฐาน ขณะที่นายประยูร อินทวาด อายุ 60 ปี เพื่อนบ้านที่มาช่วยกันเข็นรถยนต์ออกจากรัศมีไฟ เล่าว่ารถใส่เบรกมือถ้าดันคนเดียวไม่มีทางขยับได้ ตอนเกิดเหตุไม่รู้มีพลังมาจากไหนช่วยกันดันจนรถพ้นจากกองเพลิง แต่ตอนนี้ดันกันอย่างไรก็ไม่เขยื้อน พร้อมกับชี้ไปที่เลขทะเบียนรถว่า นักเสี่ยงโชคแห่กว้านซื้อเลขนี้หมดแล้ว
ขณะที่น้องส้มลูกสาวนางนก ได้เดินเข้าคุ้ยเขี่ยหาของมีค่าที่เก็บไว้ ปรากฏว่าเจอสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง ที่ตัวเองใส่ไว้ในกระปุกพลาสติกยังไม่ถูกไฟไหม้ จึงรีบนำออกมาทำความสะอาด ส่วนความช่วยเหลือมีเพื่อนบ้านนำสิ่งของมามอบให้แก่ครอบครัวนางนกจำนวนมาก สร้างความปลาบปลื้มแก่ผู้ประสบเหตุที่นั่งน้ำตาซึมตลอดเวลา