รมต.สธ. เผยวัคซีนเริ่มเอาไม่อยู่! โควิดพันธุ์ BA.4-BA.5 จี้ฉีดวัคซีนบูสเตอร์ด่วน
รัฐมนตรีสาธารณสุข เผยวัคซีนเริ่มเอาไม่อยู่! โควิดพันธุ์ BA.4-BA.5 แพร่เร็วขึ้น 4 เท่า จี้ฉีดวัคซีนบูสเตอร์ด่วน
เพจเฟซบุ๊ก "หมอตี๋ สาธิต ปิตุเตชะ" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์ข้อความเช้านี้ระบุว่า โควิดพันธุ์ BA.4 - BA.5 ทนวัคซีนกว่าพันธุ์อื่นๆ 4 เท่า แพร่เชื้อได้เร็วมาก (mRNA) ไฟเซอร์ โมเดอร์ หรือคนที่เคยติดเชื้อแล้วก็ติดซ้ำได้!!!
ฉีดบูสต์ด่วน ต้องรีบแล้ว เพื่อเพิ่มภูมิให้ตัวคุณ และคนที่คุณรัก
- ผู้ที่ฉีดเข็ม 1-3 รีบมาเติมภูมิด่วน
- ลดอาการรุนแรง ของ Covid-19.
- กลุ่ม 608 เติมภูมิด่วน : ผู้มีอายุมากกว่า 60 ปี , ผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค ,สตรีตั้งครรภ์อีกหนึ่งกลุ่ม
หลังจากช่วงต้นปีที่มีโควิดสายพันธุ์โอมิครอนเกิดขึ้น เราเริ่มควบคุม สร้างภูมิคุ้มกันได้ และอัตราการติดเชื้อ และเสียชีวิตก็ลดลง จนสามารถเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว และผ่อนปรนมาตรการป้องกันได้สำเร็จ
แต่แล้วจู่ๆช่วงเมษายนที่ผ่านมา ผู้คนกลับเริ่มติดเชื้อมากขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ ย่อยมาจากสายพันธุ์โอมิครอน ชื่อ BA.4-BA.5 ซึ่งเชื้อตัวนี้มีตำแหน่งกลายพันธุ์เดียวกับสายพันธุ์เดลตา
ผลการศึกษาสายพันธุ์ของสหรัฐฯ ระบุว่า สามารถเพิ่มจำนวนได้ดีในเซลล์ปอด อาจจะเพิ่มความเสี่ยงการเกิดปอดอักเสบ ,สามารถแพร่เชื้อได้สูงมาก ง่ายและรวดเร็วขึ้น และหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันเก่ง สามารถต้านทานวัคซีนเอ็มอาร์เอ็มเอ (mRNA) ได้มากกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้าถึง 4 เท่า ซึ่งรวมถึงไฟเซอร์ และโมเดอร์นาด้วย ใครที่เคยติดเชื้อแล้ว หรือฉีดวัคซีนแล้วก็ติดซ้ำได้!!!
โดยพบว่า คนที่ไม่ฉีดวัคซีน และติดสายพันธุ์นี้ ภูมิที่สู้กับเชื้อ ลดลงถึง 6-7 เท่า มีโอกาสติดเชื้อมากกว่าคนที่ได้รับวัคซีนและวัคซีนโดสกระตุ้นกว่า 5 เท่า
ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว 1-2 เข็ม ภูมิที่สู้กับเชื้อจะลดลง 1-2 เท่า และยังมีโอกาสติดได้เช่นเดียวกัน เพียงแค่สู้ได้กว่าคนไม่ฉีดเล็กน้อย
ดังนั้น การรับวัคซีน และฉีดวัคซีนบู๊ตเตอร์ (เข็ม 3-5) จึงจำเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายเพิ่ม ช่วยลดอาการรุนแรงต่างๆได้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเสี่ยง ผู้มีโรคประจำตัว และผู้สูงอายุ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอาการรุนแรง หรือปอดอักเสบได้ หากติดเชื้อสายพันธุ์นี้