ดราม่า! เปิดใจ แม่ "ขโมยนมกล่อง" ให้ลูกกินครั้งที่ 4 ถูกจับ ล่าสุด ตร. สั่งปล่อยตัว
ฮอตโซเชียล ดราม่า! เปิดใจ แม่ "ขโมยนมกล่อง" ให้ลูกกินครั้งที่ 4 ถูกจับ ล่าสุด ตร. สั่งปล่อยตัว เผยเหตุการณ์ทั้งหมด
จากกรณีที่แม่ต้องการให้ลูกอยู่ด้วย ไม่อยากให้ลูกไปอยู่กับคนอื่น จึงต้องทำทุกทางที่จะดูแลลูก แม้กระทั้งต้องไปขโมยนมกล่องที่ร้านสะดวกซื้อ จนต้องถูกจับดำเนินคดี รับสารภาพต่อไปไม่ทำ แม้จะยากจนจะหางานทำ
วันที่ 18 กรกฎาคม 2565 จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากเจ้าพนักงานร้านสะดวกซื้อ ในเขตอำเภอเมืองศรีสะเกษ ว่ามีหญิงสาว มาแอบมาขโมยนมกล่องอีกแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ก็ได้มาแอบขโมยนมกล่อง แต่เจ้าพนักงานเห็นก่อน แต่ดูสภาพการแต่งกายน่าจะยากจนมาก จึงได้ช่วยจ่ายเงินค่านมกล่องให้ โดยไปไม่คิดเงิน ยอมเอาเงินของพนักงานออกให้ แต่ครั้งนี้ก็มาแอบขโมยอีก รวม 4 ครั้งแล้ว
ร้อยตำรวจเอก ไพบูลย์ คุณสาร รอง สวป. ทำหน้าที่หัวหน้าสายตรวจได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ ที่ร้านสะดวกซื้อในเขตตำบลน้ำคำ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จึงรีบไปตรวจสอบ พบผู้จัดการร้านที่ได้ควบคุมตัวนางสาวแจ่ม (นามสมมติ) อายุ 51 ปี ไว้แล้ว จึงตรวจค้นกระเป๋าผ้าสีดำที่นางสาวแจ่ม สะพายอยู่พบมนมกล่อง 3 กล่องอยู่ในกระเป๋า ร.ต.อ.ไพบูลย์ เห็นว่าของที่ขโมยไม่มาก และมีมูลค่าเล็กน้อย จึงขอจ่ายค่านมแทนเพื่อให้ น.ส.แจ่ม แต่ก็ต้องถูกจับกุมเพราะผู้จัดการร้านสะดวกซื้อไม่ยอม จึงนำตัวมาสถานีตำรวจบันทึกจับกุม และนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
เบื้องต้น น.ส.แจ่ม ให้การรับสารภาพว่าตนขโมยนมจริง เพื่อจะนำไปให้ลูกสาวอายุ 15 ปีดื่ม เนื่องจากลูกสาวที่มีความผิดปกติทางสมองดื่ม เพราะเขาบอกว่าหิว ตนไม่มีเงินแต่ก็ต้องการที่จะดูแลลูกสาวให้ดีกินอิ่ม เพราะลูกสาวต้องการจะไปอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานีกับญาติ แต่ตนไม่อยากให้ลูกสาวไป จึงจะต้องพยายามที่จะดูแลเขาให้ดี ไม่มีเงินก็ต้องหาทางหาของที่ลูกต้องการมาให้ได้ ซึ่งตนเคยก่อเหตุลักทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อแบบนี้มาแล้ว 3 ครั้ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ตนได้รับปากกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะจ่ายค่านมให้ว่าต่อไปจะไม่ทำอีก โดยจะพยายามหางานทำ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะพยายามฟหางานทำแล้ว แต่ไม่มีใครรับ
เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ภายหลังจากได้จ่ายค่านมให้ นำตัวไปทำแผนการแอบขโมยนมกล่องที่ร้านสะดวกซื้อดังกล่าวแล้ว ก็ได้นำตัวมาสอบสวน ลงบันทึกประจำ ดำเนินคดีในหาข้อ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
โดยเรื่องนี้ได้รายงานไปที่ พันตำรวจเอก เทพพิทักษ์ แสงกล้า รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้พิจารณาแล้วโดยได้สั่งการว่า
“แม้คดีนี้จะเป็นคดีอาญาแผ่นดินต้องหาว่า ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนซึ่งมีโทษจำคุกสูงถึง 5 ปี และบุคคลอื่นไม่ควรเอาเป็นแบบอย่าง แต่เนื่องจากผู้ต้องหามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มีบุตรที่จะต้องดูแล ไม่น่าจะหลบหนี และทรัพย์ที่ลักเอาไปมีมูลค่าเล็กน้อยเพียง 39 บาท หากประกันตัวไปไม่น่าจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และไม่น่าจะเสียรูปคดี เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาไปจากการควบคุมของพนักงานสอบสวน และสั่งให้ผู้ต้องหามารายงานตัวตามนัดต่อไป”
นอกจากนั้น ยังจะพยายามหางานที่สุจริตให้ทำเพื่อที่จะได้มีรายได้มาดูแลลูกต่อไป