"กัน จอมพลัง" พายายวัย 80 บุกโรงพักทวงความยุติธรรมให้ลูกชายถูกรถชนดับ
"กัน จอมพลัง" บุกโรงพักโกสัมพีทวงถามความยุติธรรมคดี "ชายเก็บของเก่า" ถูกรถชนเสียชีวิต ชี้คู่กรณีเป็นสาวไฮโซมีฐานะ แต่เมินเฉยไม่ยอมมาไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหาย
วันที่ 22 กรกฎาคม 2565 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ "กัน จอมพลัง" พร้อมทนายความและทีมงาน เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรโกสัมพี อำเภอโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีของ นายทองอินทร์ สีขำ หรือ ลุงร่อน อายุ 62 ปี "ชายเก็บของเก่า" ชาวบ้าน ต.โกสัมพี อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร ที่ถูกรถเก๋งชนเสียชีวิต ขณะจูงรถจักรยานหาเก็บของเก่าไปขายเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว ซึ่งทางบ้านที่มีฐานะยากจนและใช้ชีวิตกันค่อนข้างลำบากอัตคัด ขนาดเสียชีวิตยังไม่มีเงินจัดงานศพ จนชาวบ้านต้องช่วยกันบริจาคเงินจัดงานศพและช่วยกันบริจาคเงินเพื่อมาสร้างบ้านพักอาศัยให้มีสภาพดีกว่าที่เป็นอยู่
โดยอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดที่บริเวณทางแยกเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสนามเพรียง ถนนพหลโยธิน (ขาขึ้น) ในช่วงบ่าย วันที่ 27 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้นายทองอินทร์ สีขำ หรือ ลุงร่อน "ชายเก็บของเก่า" เสียชีวิตคาที่ ส่วนเจ้าของรถยนต์ที่เป็นคู่กรณีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โกสัมพี ซึ่งเป็น สน.เจ้าของพื้นที่ได้ทำการตรวจสอบเพื่อดำเนินการสอบสวนต่อไปแล้ว
เบื้องต้นผู้สื่อข่าวทราบว่าคู่กรณี และญาติผู้เสียชีวิตไม่สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยหรือตกลงกันได้ในเรื่องของการชดใช้ค่าเสียหาย เนื่องจากคู่กรณีได้เบี้ยวนัดผู้เสียหายและพนักงานสอบสวน ไม่มาเจรจาชดใช้ค่าเสียหายตามที่ตกลงไว้ถึง 2 ครั้ง ส่งแต่เพียงทนายความมาแทนเท่านั้น
โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2565 ผู้เสียหายได้เรียกร้องคู่กรณีเป็นค่าเสียหายจากประกันภัยภาคบังคับ และภาคสมัครใจ รวม 2 ล้านบาท แต่คู่กรณีไม่รับข้อเรียกร้องตาม โดยไม่ได้ข้อสรุปจำนวนเงินที่จะชดใช้ และได้นัดเจรจาอีกครั้งในวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 แต่ปรากฏว่าเจรจาไม่เป็นผล เพราะฝ่ายคู่กรณีที่ส่งตัวแทนมาจะขอชดใช้เพียง 35,000 บาท เป็นเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเท่านั้น จึงไม่สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ ซึ่งสร้างความผิดหวังและเกิดความกังวลใจให้กับญาติผู้เสียชีวิตเป็นอย่างมาก เนื่องจากคู่กรณีเป็นถึงบุคคลมีชื่อเสียงแต่กลับไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหาย ปล่อยให้คดียืดเยื้อมาโดยตลอด และมองไม่เห็นความเดือดร้อนของชีวิตและครอบครัวผู้อื่นที่ได้รับความสูญเสียเพราะความประมาทของตน
ขณะที่ พ.ต.อ.ณัฐพล บุบผะศิริ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรโกสัมพีนคร เปิดเผยถึงคดีดังกล่าวระบุว่า คดีนี้ได้แยกเป็น 2 ส่วน คือ คดีอาญา และ คดีแพ่ง ในส่วนของคดีอาญาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการด้วยความยุติธรรมอย่างรวดเร็วเต็มที่ ในส่วนนี้มีความคืบหน้าไปมาก ในส่วนของคดีแพ่งได้เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาเจรจาตกลงกัน หากยังตกลงกันไม่ได้จะทำบันทึกและส่งต่อในสำนวนให้ไปตกลงกันในชั้นศาลต่อไป
ด้าน นายชัชชัย สาลีนาค หรือ เก่ง อายุ 36 ปี ผู้ที่ให้การดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตและเป็นผู้รับมอบอำนาจในการติดตามคดี กล่าวว่า ตอนนี้ยังอยู่ในชั้นสอบสวนว่าจะชี้มูลความผิดหรือดำเนินคดีไปทิศทางไหน ในส่วนของค่าเสียหายที่ตกลงกันไม่ได้คงต้องฟ้องทางแพ่งต่อไป ซึ่งสองครั้งที่คุยกันไม่ลงตัว คู่กรณีไม่เคยมาเจรจา มีแต่ส่งตัวแทนมา แถมจ่ายเงินมาเพียง 5,000 บาทเท่านั้นแล้วก็หายไปเลย ซึ่งหากไปถึงชั้นศาลก็จะไม่ขอเจรจาไกล่เกลี่ยหรือต่อรองใด ๆ แล้ว เนื่องจากมีการผิดนัดถึงสองครั้ง และจะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะไม่มีความรับผิดชอบด้านมนุษยธรรมกับครอบครัวผู้เสียตายที่เป็นผู้ยากไร้ใด ๆ เลย
นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง กล่าวว่า วันนี้ได้เห็นสภาพยายแล้วรู้สึกตกใจมากว่ายายนั้นผอมโซขนาดนี้ บอกเลยสมมติถ้าตนเป็นคู่กรณี ตนจะยิ่งต้องรีบช่วยครอบครัวยายให้เร็วที่สุด อยากให้นึกภาพดูคนอายุ 80 กว่าต้องมาใช้ชีวิตลำพังหลังสูญเสียลูกชายที่เป็นเสาหลักของครอบครัวไปว่าจะลำบากขนาดไหน
วันนี้ตนมาดูชีวิตความเป็นอยู่ของยายและติดคามคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดำเนินการอย่างเต็มที่และจะเร่งรัดคดีให้รัดกุมและเป็นธรรมที่สุด ส่วนคู่กรณีของผู้เสียหายจะเป็นคนดังมีฐานะอะไรตนไม่กลัว ตนอยากช่วยยายให้ถึงที่สุด อยากให้เข้ามาช่วยดูแลยาย เพราะยายแก่มากแล้ว ยิ่งช่วยช้ายายจะยิ่งบอบช้ำไปมากกว่านี้
ข่าวโดย พิพัฒน์ จงมีความสุข จ.กำแพงเพชร