"ลงมติไม่ไว้วางใจ" - ไว้วางใจ คู่ขนาน ปชช.แห่โหวตกว่า 4 แสนคน รอลุ้นผลนอกสภาฯ
ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล โพสต์เฟซบุ๊กประเด็นการ "โหวตไม่ไว้วางใจ" - ไว้วางใจรัฐบาลในการ "อภิปรายไม่ไว้วางใจ 2565" โดยประชาชนสามารถลงมติคู่ขนานผ่านโครงการ "เสียงประชาชนลงมติ-ไว้วางใจไม่ไว้วางใจรัฐบาล" กว่า 4 แสนคน พร้อมเผยวัตถุประสงค์ของโครงการฯ
ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กประเด็นการ "โหวตไม่ไว้วางใจ" - ไว้วางใจรัฐบาลในการ "อภิปรายไม่ไว้วางใจ 2565" โดยประชาชนสามารถลงมติคู่ขนานผ่านโครงการ "เสียงประชาชนลงมติ-ไว้วางใจไม่ไว้วางใจรัฐบาล" พร้อมเผยวัตถุประสงค์ของโครงการฯ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โหวตไม่ไว้วางใจ - ไว้วางใจรัฐบาล วิธีลงมติง่ายๆสำหรับ ปชช. ปิด 11 โมง เช็กเลย
- "ประยุทธ์" ไปต่อ!256ต่อ206เสียง "ไว้วางใจ" - "บิ๊กป้อม"แชมป์- "จุรินทร์"บ๊วย
ตามที่โครงการ "เสียงประชาชน" อันประกอบด้วยนักวิชาการจาก 4 มหาวิทยาลัย และองค์กรภาคประชาชน 30 ปีพฤษภาประชาธรรม โดยความร่วมมือของสถานีโทรทัศน์ดิจิตอล 4 ช่อง ได้จัดทำโครงการ "เสียงประชาชน" เพื่อให้ประชาชนสามารถลงมติไว้วางใจ หรือ ไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้ง 11 คน คู่ขนานกับสภาผู้แทนราษฏรนั้น โครงการ “เสียงประชาชน” มีประเด็นที่ขอแถลงก่อนปิดการโหวตในเวลา 11.00 น. ดังต่อไปนี้
1.วัตถุประสงค์ของโครงการ "เสียงประชาชน" คือการสร้างแพลตฟอร์มหรือช่องทางให้ประชาชนในฐานะที่เป็น "เจ้าของอำนาจอธิปไตย" ตามรัฐธรรมนูญ สามารถแสดงออกว่าจะไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายทั้ง 11 คน เพื่อให้ "เสียงประชาชน" เจ้าของประเทศสามารถส่งออกมาได้โดยตรง ซึ่งจะเหมือนหรือจะต่างไปจากการลงมติของ ส.ส. ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน ก็เป็นเรื่องของประชาชนที่เข้ามาโหวต แม้จะไม่มีผลทางกฎหมายแต่คือเสียงประชาชนที่ฝ่ายการเมืองพึงต้องรับฟัง
2. กติกาในการโหวตคือ "หนึ่งเครื่องหนึ่งเสียง" โดยการโหวตจะแยกลงมติรัฐมนตรีทั้ง 11 คนเป็นรายบุคคลเช่นเดียวกับการลงมติของสภาผู้แทนราษฏร การโหวตได้เริ่มในวันสุดท้ายของการอภิปรายคือเมื่อวานนี้ เวลา 18.00 น. เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสได้ฟังการอภิปรายและการชี้แจงจากรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายก่อนที่จะมีการโหวต โดยจะปิดการโหวตในวันนี้ ซึ่งเป็นวันลงมติของสภาผู้แทนราษฏรลงมติ โดยปิดเวลา 11.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับการปิดโหวตของสภาผู้แทนราษฎร
3.ผลการโหวต "เสียงประชาชน" สถานีโทรทัศน์ดิจิตอลทั้ง 4 ช่องจะประกาศหลังจากสภาผู้แทนราษฏรได้ลงมติเสร็จสิ้นแล้ว ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ผลการลงมติเสียงประชาชนมีผลต่อการลงมติของ ส.ส. ในสภาผู้แทนราษฎร จนอาจถูกครหา หรือเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนต่อเจตนารมณ์ของการดำเนินโครงการได้ว่าไปเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในสภาผู้แทนราษฎร
4.อย่างไรก็ตามแม้ว่าประชาชนทุกคนจะมีสิทธิโหวต และในปัจจุบันการใช้โทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับประชาชนโดยทั่วไปแล้ว แต่ก็อาจจะมีประชาชนจำนวนหนึ่งที่ยังเข้าไม่ถึงอินเตอร์เน็ต "เสียงประชาชน" ที่โหวตในครั้งนี้ผลที่ออกมาจึงเป็นเสียงประชาชนที่มาโหวตไม่อาจกล่าวได้ว่าเป็นเสียงของประชาชนทั้งหมด การนำผลการโหวตไปใช้ไม่ว่าในทางใด จึงต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริงนี้ด้วย
แต่ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงอีกประการที่ต้องไม่ลืมคือ ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด จะไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทั้ง 11 คน ทุกคนและทุกฝ่ายก็มีโอกาสเสมอกันในการโหวตหรือชวนคนมาโหวต
ดังนั้น ผลที่ออกมาไม่ว่าเราจะเห็นด้วยหรือไม่ หรือจะให้ประโยชน์หรือให้โทษกับฝ่ายใด ผลที่ออกมาคือเสียงประชาชนที่มาโหวต ที่ทุกฝ่ายมีโอกาสโหวตและชักชวนคนให้มาโหวตได้อย่างเสมอกัน
5.ในขณะที่แถลง (09.00 น.) มีประชาชนมาร่วมลงมติแล้วกว่า 400,000 คน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่การดำเนินการเป็นครั้งแรกของประเทศไทยมีประชาชนเข้าร่วมมากเช่นนี้
ทั้งนี้ ไม่ว่าผลการโหวตจะออกมาอย่างไร การให้ประชาชนได้โหวตออนไลน์โดยใช้โทรศัพท์มือถือเป็นช่องทางที่สะดวกสำหรับประชาชน จัดการง่าย ค่าใช้จ่ายน้อย จึงควรใช้เป็นช่องทางในการรับฟังเสียงประชาชนให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการให้ประชาชนได้ตัดสินใจในเรื่องสาธารณะต่างๆ และใช้เป็นเครื่องมือแก้ไขความขัดแย้งของฝักฝ่ายที่เห็นต่างอย่างสันติโดยไม่มีการเผชิญหน้าเพื่อให้เสียงประชาชนได้ดังขึ้น และนำไปสู่ประชาธิปไตยโดยตรงให้มากยิ่งขึ้นต่อไป
ขณะที่ มติที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ผลลงมติไม่ไว้วางใจ 11 รัฐมนตรี ปรากฏว่า พล.ลประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ไว้วางใจ 256 เสียง ไม่ไว้วางใจ 206 เสียง และงดออกเสียง 9 เสียง โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้รับคะแนนไว้วางใจสูงสุด 268 เสียง ส่วนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ไว้วางใจน้อยสุดที่ 241 เสียง
CR เฟซบุ๊ก Prinya Thaewanarumitkul