คดี "บอส วรยุทธ" เสพโคเคนขาดอายุความแล้ว เหตุ กม.ยาเสพติดฉบับใหม่
รองโฆษก อสส. เผยคดี "บอส วรยุทธ" เหลือข้อหาขับรถชนคนตายแค่คดีเดียว ส่วนข้อหาเสพโคเคนขาดอายุความไปแล้ว ไม่ต้องรอถึง 3 ก.ย. 65 เหตุเพราะ กม.ยาเสพติดฉบับใหม่
เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 65 นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ผลจากการใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ปี 2564 ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 2564 ที่ให้ยกเลิก พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษปี พ.ศ 2522 เป็นผลทำให้คดีของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง ข้อหาเสพโคเคนขาดอายุความตามกฎหมาย หมดอายุความโดยอัตโนมัติ
นายประยุทธ กล่าวว่า ตอนนั้นพนักงานอัยการได้ตั้งทีมรื้อคดีอาญาขึ้นใหม่ โดยมีนายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการสำนักงานคอีอาญา เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และมีตนเป็นเลขาคณะทำงาน ได้แจ้งดำเนินคดีเพิ่มข้อหาเสพโคเคน จนศาลมีหมายจับ นายวรยุทธ คดีนี้มีกำหนดอายุความ 10 ปี เป็นไปตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ 2522 มาตรา 58 ที่ระบุว่าห้ามไม่ให้ผู้ใดเสพยาเสพติดโคเคน (ยาเสพติดประเภท 2) หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษตามมาตรา 91 คือจำคุก 6 เดือนถึง 3 ปี จึงทำให้คดีดังกล่าวมีอายุความ 10 ปี คดีดังกล่าวได้เกิดเมื่อวันที่ 3 ก.ย.2555 อายุความก็จะขาดในวันที่ 3 ก.ย.2565
นายประยุทธ กล่าวว่า แต่ปรากฏว่าต่อมาได้มีประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ออกมาบังคับใช้ โดยยกเลิก พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ทั้งหมด แล้วเขียน หมวดว่าด้วยเสพยาเสพติด 5 ประเภท ใหม่ไว้ในมาตรา 104 ระบุว่า ห้ามไม่ให้ผู้ใดเสพยาเสพติดประเภท 2 (โคเคน) หากผู้ฝ่าฝืนจะถูกลงโทษ ตามมาตรา 162 คือมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ผลคือทำให้อายุความคดีจาก 10 ปี ลดเหลือ 5 ปี ทำให้คดีของนายวรยุทธ ในข้อหาเสพโคเคนหมดอายุความโดยอัตโนมัติ
"ตอนนี้คดีของนายวรยุทธ จึงเหลืออยู่เพียงข้อหาเดียวคือ คดีขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 มีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 10 ปีจึงมีอายุความ 15 ปี และจะขาดอายุความในวันที่ 3 ก.ย. พ.ศ 2570" นายประยุทธกล่าว