ลำดับเหตุการณ์ "ครูแดน" เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ แม่ร่ำไห้ขอบคุณ "บิ๊กโจ๊ก"
ลำดับเหตุการณ์ ความจริงกำลังเปิดเผย "ครูแดน" เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ แม่ร่ำไห้ขอบคุณ "บิ๊กโจ๊ก" ช่วยรอดจากเขตอิทธิพลว้า-เมียนมา
กรณี "ว้าแดงครูแดน" ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เจ้าหน้าตำรวจและเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมแบะความมัานคงของอนุษย์ จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2565 ได้ไปรับตัว นายระม้าย โมริพันธ์ หรือ “แดนนี่” หรือ “ครูแดน” อายุ 40 ปี ชาว อ.ภูพาน จ.สกลนคร ผู้กำกับละครและครูสอนศิลปะการต่อสู้ให้กับดารานักแสดง มาดำเนินการต่อตามกระบวนการ ภายหลังทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ไปรับตัวมาจากทางการเมียนมา จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา และได้นำตัวมาสอบสวนเกี่ยวกัยด้านความมั่นคง ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ค่ายเม็งรายมหาราขแล้วเสร็จ
พ.อ.สุทธิ์เขตต์ ศรีนิลทิน ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่น (ทีบีซี) กล่าวว่าหลังได้รับการประสานจากทีบีซีฝ่ายเมียนมา ก็ได้มีการไปรับตัวครูแดนกลับในช่วงเช้า และได้นำตัวมาที่หน่วยฯ เพื่อที่ทางหน่วยข่าวกรองจะได้มีการซักถามถึงการเดินทางไปของครูแดน ว่าไปได้อย่างไร และฝั่งนั้นมีอะไรบ้าง เป็นการตรวจสอบข้อมูลด้านความมั่นคง
เบื้องต้น ทราบว่าครูแดนสมัครใจเดินทางไปเอง โดยลักลอบข้ามออกทางช่องทางธรรมชาติ ไม่ได้ถูกจับตัวหรือถูกลักพาตัวไป ส่วนรายละเอียดที่ชัดเจนกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งในส่วนของคดีว่าเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดหรือการค้ามนุษย์หรือไม่นั้น เป็นเรื่องของตำรวจและพัฒนาสังคมและความมั่นคงจองมนุษย์ ทหารจะดูด้านเดียวกับความมั่นคงเท่านั้น
โดยก่อนที่จะเข้ามากองบังคับการตำรวจภูธรเชียงราย มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้พาตัวครูแดน เดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงราย เพื่อทำบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ เนื่องจากเอกสารเดิมสูญหายทั้งหมด จากนั้นเมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่ได้พาตังนายระม้ายหรือครูแดน เข้าไปพบกับนางคำ โมริพันธ์ ผู้เป็นมารดา ซึ่งได้มารออยู่ที่ห้องรับรอง ซึ่งถือเป็นการพบกันครั้งแรกในรอบปีนับตั้งแต่ครูแดนหายตัวไป โดยทันทีที่ครูแดนพบนางคำได้ก้มลงกราบแทบเท้าและโผเข้ากอดผู้เเป็นแม่ด้วยความดีใจ ซึ่งต่างคนต่างร้องให้ออกมาด้วยความดีใจทีมีโอกาสได้พบกันอีกครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวครูแดนไปสอบสวนปากคำเพิ่มเติมตามขั้นตอนของกฎหมาย จากหน่วยงานที่เกี่ยวทั้งตำรวจและพม.เชียงราย
นายระม้าย กล่าวว่าตนต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ทั้งในประเทศไทยและประเทศเมียนมา ทุกๆ คน ที่ทำให้ตนมีชีวิตกลับมาประเทศอีกครั้ง รวมไปถึงทางกองกำลังว้าแดง และทางการเมียนมา ที่ได้ให้การคุ้มครองและดูแลตนเป็นอย่างดี ตนต้องกราบพระคุณเป็นอย่างสูง อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงเรื่องความเป็นอยู่ระหว่างถูกกักตัว ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่อนุญาตให้เปิดเผยข้อมูล เพราะยังอยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่อยู่
ด้านนางคำ กล่าวว่ารู้สึกดีใจที่บุตรชายมีชีวิตกลับมาได้ เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เพราะเขาต้องลำบากมานานถึงค่อนปีแล้ว ซึ่งตนต้องขอขอบคุณทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และทาง "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ตนได้มีการร้องขอความช่วยเหลือ หากไม่ได้พวกท่านตนก้ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะเป็นเพียงคนรากหญ้า แต่ท่านก็ได้ช่วยเต็มที่ รวมถึงทุกหน่วยงานและสื่อมวลชนด้วย หลังจากเสร็จกระบวนการต่าง ๆ แล้วตนพร้อมบุตรชายก็จะเดินสายไปขอบคุณผู้ใหญ่การช่วยเหลือ
รวมถึงไปแก้บนสิ่งศักดิ์ที่ได้ไปกราบไหว้บนบานหลายที่โดยเฉพาะหลวงปู่โชค ที่ทำนายว่าบุตรชายยังมีชีวิตอยู่ ส่วนอนาคตของครูแดนนั้น เป็นที่ชอบในด้านการแสดงและภาพยนตร์มาก แต่ก็ต้องถามทางครูแดนก่อนเพราะแม่ไม่สามารถไป กำหนดได้ แต่ตอนนี้กับตอนนั้นไม่เหมือนกัน ตอนนี้เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ สิ่งดี ๆ ก็ให้คิดทำ เพราะเราเปลี่ยนชีวิตใหม่ประสบการณ์สอนให้เรารุ็ว่ามันเป็นยังไง ตอนนี้ได้กลับมาก็อยากให้มีชีวิตคิดีดทำดี ซึ่งที่ผ่านมาก็ทำดีอยู่แล้วแต่อนาคตนั้นไม่รู้แต่ก็อยากให้ทำดี
ลำดับเหตุการณ์
ก่อนหน้านี้ครูแดนได้ถูกคุมขังอยู่ในคุกเมืองโต๋น ประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นเขตปกครองของรัฐว้าแดง โดยเจ้าหน้าที่รัฐว้าได่นำตัวมาส่งให้เจ้าหน้าที่ทหารเมียนมาที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ตรงกันข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา
หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่เมียนมาได้สอบปากคำครูแดนแล้วเสร็จแล้วโดยใช้เวลาประมาณ 1 วัน ก่อนที่จะติดต่อมายังฝั่งไทยผ่านกลไกลชายแดนทางคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่น หรือทีบีซี เพื่อขอส่งมอบตัวครูแดนกลับสู่ประเทศไทยแล้ว โดยจะใช้ช่องทางตรงจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2
ทางเมียนมาได้นำตัวครูแดนไปยัง บก.ยุทธศาสตร์ท่าขี้เหล็ก โดยมีการตรวจสอบบุคคล และสอบปากคำ ซึ่งพบว่าผลการสอบปากคำเบื้องต้นมีความแตกต่างจากคำบอกเล่าของญาติและกระแสที่มีมาก่อนหน้า
โดยเจ้าหน้าที่เมียนมาระบุว่าครูแดนบอกว่าได้เดินทางเข้าไปในเขตอิทธิพลของว้าแดงด้วยตัวเองโดยไม่ได้ถูกลักพาตัว สาเหตุเพราะต้องการบำบัดอาการบางอย่างของตัวเอง จนถูกนำไปขังที่เมืองโต๋นดังกล่าว รวมทั้งระบุว่าการเดินทางไปพื้นที่นั้นไม่ได้เกี่ยวกับขบวนการค้ายาเสพติดแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้มีกระแสว่า ครูแดนถูกหลอกให้เข้าไปถ่ายทำละครในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา แต่มีขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มหนึ่งหลอกให้ไปถูกคุมขังที่เมืองโต๋นแล้วมีการเรียกค่าไถ่จากญาติเป็นเงินจำนวน 24 ล้านบาท และปรากฎภาพครูแดนถูกใส่โซ่ตรวจและมีกองกำลังติดอาวุธดูแลอย่างเข้มงวด ทำให้นางคำ โมริพันธุ์ มารดา ของครูแดนขอความช่วยเหลือไปยังหลายหน่วยงาน ส่งผลทำให้ทางการไทยประสานไปยังรัฐบาลกลางเมียนมาและสหรัฐว้า จนมีการนำตัวมาส่งมอบให้เจ้าหน้าที่เมียนมาที่ จ.ท่าขี้เหล็ก โดยฟลังจากนี้เจ้าหน้าที่ไทยจะได้สอบปากคำครูแดนอีกครั้งว่าข้อเท็จจริงของเรื่องนี้เป็นอย่างไร
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ครูแดนยังอยู่ระหว่างการควบคุมเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม จากทั้งจากทางตำรวจและพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.เชียงราย ทั้งประเด็นการเดินทางข้ามไปเขตอิทธิพลว้า เส้นทางและเหตุผลที่เดินทางไป เพื่อวิเคราะห์ว่าเกี่ยวข้อกับกฎหมายด้านไหนบ้าง โดยหากสอบสวนแล้วเสร็จหากไม่พบติดขัดกฎหมายด้านใดก็คงจะอนุญาตให้ทางครูแดนกลับไปครอบครัวได้ แต่มีรายงานว่าอาจะมีการนำตัวครูแดนเดินทางไปพบกับทาง บิ๊กโจ๊ก เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมและอาจมีการแถลงข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งหมดนี้อีกครั้งหนึ่งที่กรุงเทพหานคร