"บัวขาว" นำทัพ 24 นักชก เตรียมขึ้นเวทีราชดำเนิน สู้ศึก "บีเคเอฟซี " ดวล "มือเปล่า"
"บัวขาว" บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักสู้ชื่อดัง พร้อมด้วยเหล่านักสู้ 24 ชีวิต เตรียมขึ้นเวทีราชดำเนิน ในศึกการต่อสู้ "บีเคเอฟซี ไทยแลนด์ พรีเซนเต็ด บาย สิงห์ ครั้งที่ 3" ในชื่อรายการ "Moment of Truth" ปะทะกันด้วยรูปแบบการต่อสู้"มือเปล่า" ผู้จัดเผยดีไซน์เวทีบู๊"ทรงกลม"
บัวขาว บัญชาเมฆ หรือ "บัวขาว" แชมป์การต่อสู้ K-1 World MAX 2 สมัย จะขึ้นเวทีการต่อสู้ Bare Knuckle Fighting Championship (BKFC) "บีเคเอฟซี ไทยแลนด์ พรีเซนเต็ด บาย สิงห์ ครั้งที่ 3" หรือ "บีเคเอฟซี" การต่อสู้ในรูปแบบมือเปล่า โดยจะพบกับ เออร์แกน วาโรล (Erkan Varol) จากตุรกี พร้อมด้วยเหล่านักสู้รวม 24 คน ที่จะมาต่อสู้
ที่เวทีมวยราชดำเนิน การแข่งขันรายการนี้ จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2565 เวลา 18:00 น. ทั้งนี้ "บีเคเอฟซี ไทยแลนด์ พรีเซนเต็ด บาย สิงห์ ครั้งที่ 3" ภายใต้ชื่อรายการ "Moment of Truth" ถ่ายทอดสดทั่วโลกผ่านแอป BKFC
บัวขาว บัญชาเมฆ หรือ " บัวขาว" วัย 42 ปี ตำนานนักสู้ไทย เปิดเผยว่า การแข่งขัน "บีเคเอฟซี ไทยแลนด์ พรีเซนเต็ด บาย สิงห์" ครั้งที่ 3 หรือ "บีเคเอฟซี" Bare Knuckle Fighting Championship : BKFC เป็นเวทีการต่อสู้ที่แตกต่างจากทุกเวทีที่เคยแข่งขัน เพราะในฐานะนักมวยไทย คุ้นเคยกับการใช้ทุกส่วนของร่างกายเป็นอาวุธ ทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก แต่ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่จะต้องใช้กำปั้นเพียงอย่างเดียวในการเอาชนะคู่แข่งให้ได้ นอกจากนี้ BKFC ยังใช้สังเวียนทรงกลมที่จะไม่มีการต้อนคู่ต้อสู้เข้ามุมแน่ ต้องน็อกให้ได้อย่างเดียว จึงนับว่าเป็นเวทีที่ท้าทาย อย่างไรก็ตาม เป้าหมายเดียวคือการเป็นแชมป์รายการนี้ให้ได้ อันจะเป็นการช่วยโปรโมทกีฬาการต่อสู้ของไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลกมากขึ้น
นิค แชปแมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานฝ่ายปฏิบัติการ BKFC Thailand อดีตแชมป์ UK1 British Title Cage Rage (UCMMA) World Title Light Heavyweight เปิดเผยว่า "บีเคเอฟซี" แมตช์นี้ คือ การประกบคู่ครั้งสำคัญของตำนานนักสู้ไทย บัวขาว บัญชาเมฆ " บัวขาว" กับคู่ต่อสู้คือ เออร์แกน วาโรล คิกบ็อกซิ่งชาวตุรกี และนอกจากคู่เอกที่ทุกคนเฝ้ารอคอยแล้ว ยังมีนักสู้ 24 ชีวิต ที่จะต่อสู้บนสังเวียน BKFC Thailand ที่ เวทีมวยราชดำเนิน
BKFC เป็นกีฬาที่โด่งดังทั่วโลก เพราะเป็นการต่อสู้ที่สมจริง เป็นเวทีที่แม้แต่นักกีฬาที่ดุเดือดที่สุด ก็ยังกลัวที่จะเข้าสู่สนามของ BKFC เพราะการปล่อยหมัดพลาดเพียงครั้งเดียว สามารถเปลี่ยนทุกสิ่งได้ สำหรับการแข่งขัน BKFC Thailand จะจัดขึ้นบนเวทีทรงกลม Squared Circle ที่ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันที่รวดเร็วและน่าตื่นเต้น ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกฎของ Broughton ที่กำหนดให้นักสู้ต้อง Toe the Line โดยวางเท้าที่เส้นกลางเวทีซึ่งห่างกันเพียงแค่ 3 ฟุตเท่านั้น
ในรายการนี้มีนักสู้ร่วมแข่งขัน12 คู่ รวม 24 ชีวิต ซึ่งอีกหนึ่งไฮไลท์นอกจากคู่ "บัวขาว บัญชาเมฆ" และ "เออร์แกน วาโรล" (Erkan Varol) ยังมีการชกชิงตำแหน่งแชมป์สองรายการในครั้งนี้ด้วย ทั้งการแข่งขันรองคู่เอกที่เป็นการชิงแชมป์ BKFC Thailand รุ่นเฟเธอร์เวทระหว่าง พงษ์พิศาล "ต้น" ฉุ่นย่อง และ สุรศักดิ์ สุขคำชา รุ่นแบนตั้มเวท ของการพบกันระหว่าง อุษณากร ถวิลสุวรรณวัง พบ เชสล่า นูวาล ฟิลิปปินส์
วรรธนัย วรรธนะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บีเคเอฟซี ประเทศไทย ประธานบริหาร รอยัล คลิฟ โฮเต็ลส์ กรุ๊ป และศูนย์ประชุมนานาชาติพีช (Pattaya Exhibition and Convention Hall) กล่าวว่า ศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าหรือ Bare Knuckle (แบร์ นักเคิล) เป็นเทรนด์กีฬาแห่งโลกอนาคตที่โด่งดังและเติบโตอย่างรวดเร็วในต่างประเทศ โดยทาง BKFC Thailand ต้องการที่จะช่วยยกระดับกีฬา Street fight ที่มีอยู่ขึ้นมาต่อสู้กันอย่างมีกฏกติกา ระเบียบ พร้อมสนับสนุนเยาวชนที่มีความสามารถทว่าขาดโอกาส เพื่อปั้นและเฟ้นหานักสู้หน้าใหม่ที่ฉายแววเข้าสู้เส้นทางการแข่งขัน
โดยความคาดหวังต่อจากนี้คือการเชิดชูกีฬามวย อันสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไปแข่งขันระดับสากล พร้อม ๆ กับยกระดับวงการกีฬาในประเทศให้ทัดเทียมนานาชาติ ดูแลนักกีฬาด้วยระเบียบและการให้ค่าตอบแทนที่เป็นธรรม ซึ่งจะช่วยสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นกับวิชาชีพมวย และบุคคลในวงการกีฬามวยที่ทุ่มเทเสียสละสร้างสรรค์ ซึ่ง BKFC Thailand เล็งเห็นความสาคัญ และพร้อมที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ งในการขับเคลื่อนวงการกีฬามวยด้วยการต่อสู้แบบมือเปล่าให้เติบโตอย่างมั่นคง ยั่งยืน เป็นหนึ่งในอาชีพที่ได้รับการเชิดชูและยอมรับจากคนทั่วโลก พร้อมทั้งสร้างโอกาสและเปิดรับนักสู้ทุกเพศตามนโยบาย Sport has no gender, sport for all ขอเพียงคนจริงที่มีใจนักสู้เท่านั้น
"สำหรับการจัดงาน BKFC Thailand ครั้งที่ 3 มีพันธมิตรที่เล็งเห็นความสำคัญพร้อมร่วมเดินหน้าสนับสนุนเพื่อยกระดับวงการกีฬาการต่อสู้ไทยอย่าง สิงห์ คอร์เปอเรชั่น และ บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด อีกทั้งยังได้รับความสนใจจากสื่อต่างประเทศ อาทิ นิตยสาร เนชั่นแนล จีโอกราฟิก และ ช่องเอชบีโอ นับเป็นความภาคภูมิใจและเป็นนิมิตหมายที่ดีของการแข่งขัน บีเคเอฟซี ไทยแลนด์ BKFC Thailand ที่ได้รับการตอบรับที่ดี โดยเชื่อว่าการแข่งขัน ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 3 กันยายนนี้ จะสามารถเรียกความสนใจจากผู้ชมและแฟนกีฬาได้อย่างมาก อีกทั้งยังมีส่วนช่วยดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวให้กลับมาใช้จ่ายในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม" วรรธนัย ระบุ
วรวุฒิ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ผู้สนับสนุนหลักในการจัดการแข่งขัน BKFC Thailand ครั้งที่ 3 กล่าวว่า "สิงห์" เป็นองค์กรที่ให้การสนับสนุนวงการกีฬาของไทยมาอย่างยาวนาน ทั้งในด้านการสนับสนุนกีฬาสู่ระดับอาชีพ รวมถึงเป็นพาร์ทเนอร์กับสมาคมกีฬาต่างๆ ในการสร้างนักกีฬาขึ้นมาให้ประสบความสำเร็จ และส่งต่อแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ให้กับนักกีฬารุ่นต่อๆ ไป อย่าง "บัวขาว บัญชาเมฆ " ทาง "สิงห์" ก็ได้ให้การสนับสนุนมาตั้งแต่ ปี 2551 ต่อยอดสู่การสนับสนุนค่ายบัญชาเมฆในการสร้างนักมวยไทยรุ่นใหม่ๆ ให้ได้มีโอกาสเติบโตในเวทีระดับโลก เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
สำหรับ BKFC Thailand Presented by Singha ที่จะจัดขึ้นในประเทศไทยครั้งนี้ ถือเป็นประเทศที่สามที่ได้รับความเชื่อมั่นจัดการแข่งขัน นอกจากที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ซึ่งความสำเร็จจากการแข่งขันรายการ BKFC Thailand ยังจะสามารถทำให้นักกีฬาไทยเป็นที่รู้จักในเวทีโลกได้เป็นอย่างดี
จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จากัด กล่าวว่า ศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าเป็นกีฬาที่เติบโตเร็วที่สุด และน่าจับตามองอย่างยิ่งในขณะนี้ เพราะสามารถนำไปใช้ได้ทั้งในเชิงกีฬาและการต่อสู้เพื่อป้องกันตัว มองว่าเป็นกีฬาใหม่สำหรับคนไทยที่ยังต้องการการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง "บิทคับ" ในฐานะแพลตฟอร์มด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของคนไทย มีความมุ่งมั่นในการยกระดับศักยภาพของประเทศไทยในเชิงดิจิทัล มองเห็นโอกาสในการช่วยพัฒนาพร้อมสร้างมูลค่าให้กับวงการศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่า BKFC Thailand ด้วยการมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ
ในการเชียร์และส่งแรงใจให้นักสู้ผ่านการนำ NFT Solution เพื่อยกระดับประสบการณ์การชมการต่อสู้ BKFC Thailand ครั้งที่ 3 ให้ได้อรรถรสยิ่งขึ้นพร้อมสร้างความใกล้ชิดระหว่างนักสู้และแฟนคลับ โดยภาพลักษณ์ของศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าของไทยจะโดดเด่นบนเวทีโลก และยังช่วยเพิ่มจำนวนผู้ติดตามชมมากขึ้น เพราะระบบ NFT สามารถดึงผู้ชมทั่วโลก ให้กลายมาเป็นแฟนคลับนักสู้ไทยได้เป็นอย่างดี
ดร. นพ. จตุพล คงถาวรสุกล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแผนกกระดูกและข้อ กล่าวว่า แม้ว่าการต่อสู้ด้วยมือเปล่าจะดูน่ากลัว แต่ในความเป็นจริงแล้วมีความปลอดภัยกว่าการต่อสู้หลาย ๆ ประเภท เนื่องจาก 1. การชกด้วยมือเปล่า ผู้ชกจะไม่สามารถชกด้วยความเร็วเท่าๆ จำนวนหลายๆ ครั้งแบบต่อเนื่องได้ เนื่องจากร่างกายจะมี defend mechanism หรือกลไกการป้องกันตัวเอง การชกมือเปล่าโดยมากจะเกิดแผลแตก ทำให้ดูน่าตกใจมากกว่าการชกใส่นวมที่มักจะไม่เห็นบาดแผล ทว่าแรงอิมแพคของการใส่นวมชกสามารถออกแรงได้ 100% ทุกครั้ง เพราะนวมช่วยซับแรงกระแทก ซึ่งเมื่อกระแทกเข้าที่หัวของคู่ต่อสู้จะทำให้มีสิทธิเกิดภาวะหมดสติเฉียบพลันจากการถูกกระแทกอย่างรุนแรงที่ศรีษะ เซลล์บวมจากการหมดสติ เซลล์ตายเกิดผังผืด ส่งผลให้เป็นโรคสมองเสื่อมในอนาคตสูงกว่า
2. งานวิจัยพบว่าเปอร์เซ็นต์กระดูกแตกหัก และการกระทบกระเทือนทางศีรษะของการใส่นวมในการต่อสู้มีเปอร์เซ็นต์สูงกว่าการต่อยด้วยมือเปล่า 3 - 5 เท่า กล่าวโดยสรุป ศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่ามีโอกาสเกิดกระดูกหักและภาวะทางสมองน้อยกว่าการต่อสู้ประเภทอื่น ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมการชกและดูแลเรื่องแผลเป็นอย่างดี ซึ่งการแข่งขันรายการนี้ ใช้กฎกติการะดับสากลจึงเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับนักกีฬาที่เข้าแข่งขันได้มากยิ่งขึ้น
สำหรับนัดประวัติศาสตร์ในการต่อสู้ด้วยมือเปล่าครั้งแรกของฮีโร่ไทย "บัวขาว บัญชาเมฆ" บนเวทีมวยราชดำเนินจะจัดขึ้น ในวันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2565 เวลา 18:00 น. ICT/11:00 น. GMT/7:00 น. EST จองบัตรได้ที่ Thai Ticket Major ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือเลือกรับชมแบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชัน BKFC Thailand iOS: https://apple.co/3z62ymM Android: https://bit.ly/3b3gHcD หรือที่ลิงก์: https://referral.bareknuckle.tv/BKFCThailand