“ชัยชนะ”ลงพื้นที่กระบี่อาลัยเหยื่อหลอนยาบ้า3ศพ-ชี้สูญเสียอนาคตประเทศ

“ชัยชนะ”ลงพื้นที่กระบี่อาลัยเหยื่อหลอนยาบ้า3ศพ-ชี้สูญเสียอนาคตประเทศ

“ชัยชนะ”ลงพื้นที่กระบี่ไว้อาลัยเหยื่อหลอนยาบ้า3ศพ-ชี้สูญเสียอนาคตประเทศ ชงรัฐบาลปราบปรามอย่างเข้มข้น ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย แนะมีมาตรการควบคุมหลังจากปล่อยตัวออกจากคุกเพื่อป้องกันไม่ให้ก่อเหตุซ้ำ

นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราชและรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีชายวัย 42 ปี เสพยาบ้าจนประสาทหลอน จนก่อเหตุสะเทือนขวัญ ยิงนักเรียน 3 ศพ บริเวณริมถนนสายเขาพนม-ทุ่งใหญ่ หมู่ 2 ต.พรุเตียว อ.เขาพนม โดยทั้ง 3 คนเรียนอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนประจำอำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมาว่า ตนและ ส.ส.สาคร เกี่ยวข้อง 

“ในนามตัวแทนของพรรคฯ ขอแสดงความเสียใจมายังครอบครัว ญาติพี่น้อง คณะครูอาจารย์ และผู้เกี่ยวข้องกับน้องๆ นักเรียนทั้ง 3 คน เพราะถือเป็นการสูญเสียคนรุ่นใหม่ที่กำลังเติบโตไปสู่การเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต”

ทั้งนี้ สาเหตุสำคัญของการสูญเสียที่เกิดขึ้น มาจากผลของยาเสพติดที่ทำให้ผู้เสพมีอาการผิดปกติทางสมอง จนก่อเหตุสะเทือนใจขึ้น ดังนั้น ในส่วนของขั้นตอนต่อจากนี้ จะเป็นหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้องที่จะมีการดำเนินคดีและมีการบำบัดรักษาต่อผู้ก่อเหตุ และดำเนินการเยียวยาให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตตามกฎหมาย 
 

นายชัยชนะ กล่าวด้วยว่า สำหรับพรรคประชาธิปัตย์นั้น มี ส.ส. กรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคฯ ได้มีการเรียกร้องไปยังรัฐบาล ให้ดำเนินการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง พร้อมเสนอมาตรการต่างๆ เช่น การใช้มาตรการทั้งไม้นวมและไม้แข็งควบคู่กันไปกันกับผู้ติดยาเสพติด  การเสนอแก้ไข  พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 เพื่อให้มีการปรับปรุงเนื้อหาให้เหมาะสมกับยุคสมัย หรือร่างกฎหมายขึ้นมาใหม่  

เนื่องจากทุกวันนี้ กลายเป็นว่า อาวุธปืนสามารถพบเห็นได้ทั่วไป จนสร้างความหวาดผวาให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก เป็นต้น สำหรับตนนั้น นอกจากจะเรียกร้องให้รัฐบาล กระทรวงมหาดไทย ทหาร ตำรวจ และผู้เกี่ยวข้อง ดำเนินการปราบปรามอย่างเข้มข้นแล้ว ยังต้องมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการปราบปรามมากกว่าเดิม เช่น การใช้แอพลิเคชั่นตรวจสอบเส้นทางการเงิน การติดตามจับกุมดำเนินคดีด้วยอาศัยฐานข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ บิ๊กดาต้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบข้อมูล รวมทั้ง ควรจะมีระบบติดตามผู้ที่เคยติดคุกในคดียาเสพติด เพื่อเป็นการป้องกันในการกลับไปก่อเหตุร้าย จนกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับน้องๆ ทั้ง 3 คนด้วย  
 

“ผมได้เดินทางไปยัง จ.กระบี่ เพื่อแสดงความไว้อาลัยกับน้องๆ ทั้ง 3 คน พร้อมทั้ง ได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือนให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต ในนามมูลนิธิวิฑูรย์ เดชเดโช และขอเป็นพลังใจให้ครอบครัวของน้องๆ เพื่อก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งความทุกข์โศกนี้ไปได้ด้วยดี ซึ่งผมจะยืนเคียงข้างเป็นกำลังใจ พร้อมให้การช่วยเหลือในทุกๆด้าน ทั้งนี้ การสูญเสียที่เกิดมาจากยาเสพติดยังคงมีมาเรื่อยๆ ซึ่งถือเป็นมหันตภัยร้ายที่ทำลายในทุกๆด้าน”

ดังนั้นตนจึงได้มีการเรียกร้องให้มีมาตรการป้องกันปราบปราม โดยเฉพาะในเรื่องของการติดตามพฤติกรรมของผู้ที่ออกจากคุกในคดียาเสพติดไปแล้ว เพราะหลังจากการปล่อยตัว ผู้ที่เคยติดคุกมักจะกลับไปเรียกร้องสิ่งที่คุ้นเคยมาก่อน ดังนั้น นอกจากกำลังจากครอบครัว ญาติพี่น้อง และชุมชน สำหรับผู้ที่เคยหลงผิดจนติดคุกมาแล้ว ตนเห็นว่า ควรมีมาตรการหลังจากที่ออกจากคุก โดยอาจจะใช้กำไลอีเอ็มติดตามตัว หรือเรียกรายงานตัวเป็นคราวๆ โดยอาจจะใช้เวลาอย่างต่ำ 1 ปี เพื่อให้แน่ใจว่า ผู้ที่ออกจากคุกจะไม่ก่อเหตุร้าย จนกลับไปก่อเหตุซ้ำอีก