วสท. ประเมินความปลอดภัย เหตุสะพานถล่ม ก่อนยกคานลอชเชอร์ของสะพาน
วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ (วสท.) ประเมินความปลอดภัย เหตุสะพานถล่ม ก่อนยกคานลอชเชอร์ของสะพาน หวั่นกระทบต่อโครงสร้างอื่น ๆ เบื้องต้นได้ทยอยยกออกไปแล้ว 7 แผ่น จากทั้งหมด 14 แผ่น จะเร่งนำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด
วันนี้ (12 ก.ค. 66) นายชัชชญา ขำจันทร์ ผอ.เขตลาดกระบัง พร้อมตัวแทนเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตลาดกระบัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย ตำรวจ สน.จรเข้น้อย มูลนิธิร่วมกตัญญู และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ประชุมติดตามความคืบหน้าการระดมกำลังรื้อถอนเศษซากโครงสร้างทางยกระดับอ่อนนุช-ลาดกระบัง ที่ถล่มขณะกำลังก่อสร้าง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย และเสียชีวิตอีก 2 ราย
นายชัชชญา กล่าวว่า หลังเกิดเหตุมีผู้แจ้งขอความช่วยเหลือผ่าน 2 ช่องทาง คือ สายด่วนสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร 199 และศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ หน้าห้างโลตัส สาขาลาดกระบัง รวมยอดรับแจ้งทั้งหมด 22 ราย เป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายกับอาคารบ้านเรือน ของใช้ต่าง ๆ เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ในนี้มี 2 ราย ที่ไม่มีที่อยู่อาศัย รายแรก อยู่อาศัยกัน 10 คน ในซอย สน.จรเข้น้อย ส่วนอีก 1 ราย เป็นผู้สูงอายุ พักอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ใกล้ตลาดสด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ยุติการรื้อถอนเมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา เนื่องจากการปฏิบัติงานจะส่งเสียงดัง ก่อนมาเริ่มทำต่อในช่วงเช้าวันนี้ ปรากฏว่า ผลการรื้อถอนรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ จึงคาดว่าจะสามารถคืนพื้นที่ได้เร็วขึ้น
สำหรับสถานีดับเพลิงลาดกระบัง ได้รับกำลังสนับสนุนจากสถานีดับเพลิงประเวศมาเพิ่ม พร้อมสั่งสแตนด์บายหัวฉีดน้ำระหว่างการตัดโครงสร้างเหล็ก เนื่องจากในพื้นที่ได้รับความเสียหาย ยังมีปั๊มน้ำมันอยู่ด้วย
ขณะที่ นายวุฒินันทน์ ปัทมวิสุทธิ์ ประธานสาขาวิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท. ระบุว่า ทาง วสท. ได้เข้ามาช่วยให้คำแนะนำในการรื้อถอน ซึ่งมีข้อเสนอแนะว่า ควรปิดพื้นที่โดยรอบ ระหว่างทำการยก และบริเวณที่เป็นซากปรักหักพัง รวมถึงต้องสังเกตชิ้นส่วนโครงสร้าง ตลอดว่ามีการเคลื่อนระหว่างยกหรือไม่ เพราะหากมีการเคลื่อน อาจจะส่งผลต่อการพังถล่มลงมาได้ ซึ่งการปิดกั้นพื้นที่ จะทำให้การวางเครื่องจักรในการขนย้าย ทำงานได้สะดวก ปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงควบคุมพื้นที่ได้ง่ายขึ้น
สำหรับ หน่วยงานสาธารณสุข เขตลาดกระบัง เปิดเผยว่า ได้นำทีมเยียวยาจิตใจ เข้าไปพูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิตแล้ว เบื้องต้นพบว่า สภาพจิตใจยังน่าเป็นห่วง ในส่วนของผู้บาดเจ็บ ซึ่งพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปเยี่ยมแล้ว 2 ราย ทั้ง 2 คนยังมีกำลังใจดี ไม่มีความกังวลอะไร โดยทางสาธารณสุข ได้ติดตามให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง และวางแผนจะไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บคนอื่น ที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์9 และเยี่ยมครอบครัวพักอาศัยได้รับผลกระทบด้วย
ในส่วนของ หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญู และรถพยาบาลจากศูนย์เอราวัณ ยังคงคอยสแตนด์บายรอให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอด 24 ชั่วโมง บริเวณหน้าห้างโลตัสใกล้จุดเกิดเหตุ
ด้าน พ.ต.ท.มานิตย์ คำฟู รองผกก.ป. สน.จรเข้น้อย เปิดเผยว่า ในส่วนของตำรวจ ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ให้มาประจำที่จุดเกิดเหตุ เพื่อคอยช่วยเหลือ และติดต่อสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ต่างๆ ให้ประชาชน รวมทั้งมีการจัดการอำนวยความสะดวก ด้านการจราจร ซึ่งประสานกับสำนักงานเขต โดยในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ยังไม่พบปัญหา ส่วนโรงเรียนมาเรียลัย ที่ได้รับผลกระทบ จากการอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ปิดการเรียนการสอนชั่วคราว และจะเปิดการสอนอีกครั้งในวันจันทร์