ศาลปกครองสูงสุด ยืนไม่รับ อีสท์ วอเตอร์ ฟ้องล้มประมูลบริหารท่อส่งน้ำอีอีซี
ศาลปกครองสูงสุดยืนไม่รับคำฟ้องปม “อีสท์ วอเตอร์” ฟ้องล้มประมูลบริหารท่อส่งน้ำอีซีซี ชี้ไม่ใช่ผู้มีสิทธิยื่นฟ้องคดี แถมฟ้องซ้ำ และคำฟ้องไม่ใช่เพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณ
28 ส.ค.66 ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น ที่ไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ในคดีที่บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด(มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ ยื่นฟ้องกรมธนารักษ์, คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก, คณะกรรมการที่ราชพัสดุ เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-3
กรณี ยกเลิกผลการคัดเลือกเอกชนเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 64 ที่บริษัท อีสท์ วอเตอร์ เป็นผู้ได้รับการประเมินคะแนนสูงสุด และมีการดำเนินการคัดเลือกเอกชนใหม่ครั้งที่ 2 วันที่ 10 ก.ย. 64 ซึ่ง บริษัทอีสท์ วอเตอร์ เห็นว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย และทำให้มติของผู้ถูกฟ้องที่ 2 ในการประชุมครั้งที่ 2/2564 วันที่ 29 ก.ย. 64 ที่ให้บริษัท วงศ์สยามก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกเพื่อบริหาร และดำเนินการระบบท่อส่งน้ำสายหลักภาคตะวันออกไม่ชอบด้วยกฎหมายไปด้วย
จึงขอให้ศาลฯ มีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และที่ 3 ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการคัดเลือกโครงการพิพาทที่ไม่ชอบ และมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ดำเนินการคัดเลือกโครงการที่พิพาทให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ศาลปกครองสูงสุด ระบุเหตุผลในการยกฟ้องว่า การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีคำสั่งแต่งตั้ง และมีคำสั่งแก้ไขคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกเอกชน เพื่อบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก เป็นเพียงการดำเนินการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ผู้มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้มีอำนาจปฏิบัติหน้าที่ทางปกครองตามที่ได้รับมอบหมาย
การแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าว จึงเป็นเพียงการเตรียมการและดำเนินการของเจ้าหน้าที่ เพื่อจัดให้มีคำสั่งทางปกครองด้วยการมีมติให้เอกชนรายใดรายหนึ่ง เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกในการบริหาร และดำเนินการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกต่อไป ซึ่งเป็นการพิจารณาทางปกครอง ตามมาตรา 5 พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง 2539
โดยที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ไม่ได้เป็นผู้ออกคำสั่งทางปกครองด้วยการมีมติให้เอกชนรายใดรายหนึ่ง เป็นผู้ได้รับการคัดเลือก อันเป็นมูลเหตุพิพาทในคดีนี้ บริษัท อีสท์ วอเตอร์ จึงไม่ใช่ผู้ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย อันหลีกเลี่ยงไม่ได้จากการกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1
ส่วนที่ขอให้เพิกถอนมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ที่เห็นชอบผลการคัดเลือกให้บริษัท วงศ์สยามก่อสร้าง จำกัด เป็นคู่สัญญาในการบริหาร และดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ร่างสัญญาและเงื่อนไขสำคัญของสัญญานั้น เห็นว่า เป็นการยื่นฟ้องคดีโดยมีคำขออย่างเดียวกันกับคดีหมายเลขดำที่ 1746/2564 จึงถือเป็นการยื่นคำฟ้องเรื่องเดียวกันต่อศาลต้องห้ามตามข้อ 36(1) แห่งระเบียบที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด 2543
ส่วนที่ขอให้ศาลเพิกถอนมติคำสั่ง หรือ การกระทำใดของผู้ฟ้องคดีทั้ง 3 เห็นว่า เมื่อศาลฯ วินิจฉัยแล้วว่า บริษัทอีสท์ วอเตอร์ ไม่ใช่ผู้มีสิทธิ์ฟ้องคดี และบางคำขอท้ายฟ้องเป็นการยื่นฟ้องเรื่องเดียวกัน ศาลจึงไม่อาจรับคำฟ้องดังกล่าวได้
และที่อ้างว่า การฟ้องคดีนี้เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของสาธารณะนั้น เห็นว่า บริษัทอีสท์ วอเตอร์ อ้างว่าได้รับการประเมินคะแนนสูงที่สุด แต่ถูกยกเลิกการคัดเลือก และจัดให้มีการคัดเลือกอีกครั้ง เป็นเหตุให้บริษัท อีสท์ วอเตอร์ไม่ได้รับการคัดเลือกในครั้งหลัง ย่อมเป็นกรณีที่ บริษัทอีสท์ วอเตอร์ ยื่นฟ้องเพื่อรักษาประโยชน์ในการเข้าทำสัญญากับผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และได้สิทธิ์ในการบริหารดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก ซึ่งเป็นประโยชน์ส่วนตัวของ บริษัท อีสท์ วอเตอร์ เอง ไม่ใช่การฟ้องคดีที่เกี่ยวกับการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ ตามมาตรา 52 วรรคหนึ่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542