5 เสาหลัก กระทรวงใหญ่ ผนึกกำลังปราบยาเสพติด เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย
5 เสาหลัก กระทรวงใหญ่ ผนึกกำลังปราบปรามยาเสพติด ปลุกชุมชนให้เข้มแข็ง เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย ปราบปรามสกัดกั้นขอบชายแดน
26 ธ.ค.2566 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา การแถลงข่าวปฏิบัติการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดระยะ 1 ปีตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ,นายอนุทิน ชาญวรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย , นายสุทิน คลังแสงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม , นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข , นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข , พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
โดย นายอนุทิน กล่าวถึงความตั้งใจและความเข้มงวดของรัฐบาลในการปราบปรามแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศ ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาการบริหารราชการแผ่นดินพวกเราทุกคนในฐานะที่ตนกำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นคนคอยประสานการปราบปรามยาเสพติดกับกรมการปกครอง และใช้กลไกชุมชนเข้ามาช่วยป้องกันยาเสพติด ซึ่งเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพและใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า หากพบการทุจริตของข้าราชการต้องลงโทษอย่างเฉียบขาดคือปฏิบัติตามกฎหมาย ปฏิบัติอย่างตรงไปตรงมา และไม่ลูบหน้าปะจมูก เพราะตลาดของยาเสพติดไม่ใช่มองที่คนรวย อยากจะติดมองไปที่คนทุกคนที่เป็นเหยื่อ โดยเฉพาะคนยากจนเมื่อเสพยาเสพติดแล้วก็จะมีอาการอยากยาและลงมือทำร้ายร่างกายกับคนอื่น การแก้ปัญหายาเสพติดไม่ใช่การแก้ปัญหาของคนใดคนหนึ่งแต่เป็นปัญหาส่วนรวม การแก้แบบเฉียบขาดคือต้องแก้ทุกมิติให้อยู่ภายใต้กฎหมาย และที่สำคัญกฎหมายที่ออกมาเมื่อปี 2564 เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะนำมาเป็นมาตราการได้ และเชื่อว่าเมื่อทุกภาคส่วน มาร่วมกันแก้ไขจะทำให้ปัญหายาเสพติดลดลง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในจำนวนผู้เสพผู้ป่วยต้องมีความสามารถในการคัดกรองถ้าใช้ยาเพื่อความสนุกสนานหรือเพื่อทำงานเป็นผู้เสพผู้ป่วย แต่ผู้เสพที่เป็นกลุ่มต่อต้านสังคมก็ต้องดำเนินการทางกฎหมาย
ด้านนพ.ชลน่าน กล่าวว่า การวัด KPI ในระยะ 1 ปีมีตัวชี้คือการลดปัญหาความรุนแรงนี่คือตัวเป้าหมายทุกภาคส่วนที่ทำงานร่วมกัน ของ 5 เสาหลักที่มีการทำงานบูรณาการร่วมกันระดับประเทศจังหวัดอำเภอ ถ้า5 เสาหลักเข้มแข็งบวกกับมีมิติชุมชนเข้มแข็ง ทุกอย่างก็จะมีการวัดค่าออกมาได้ ถ้าทุกฝ่ายปิดกั้นหมด ตนเชื่อว่าจะไม่มียาเสพติดแน่นอน กระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่หลักบำบัดรักษาและการกำจัด แต่เมื่อมาทำงานกับทั้ง 5 เสาหลักเรามีหน้าที่ป้องกันให้ด้วย คือต้องทำให้ชุมชนเข้มแข็ง โดยใช้ชุมชนเป็นฐานในการบำบัด และไม่ใช่เป็นการบำบัดเพียงแค่2-3 สัปดาห์
ขณะที่นายสุทิน กล่าวถึงการสกัดกั้นตามแนวชายแดนว่า ชายแดนไทยมีทั้งหมด 5,000 กิโลเมตรเป็นทางน้ำ 2,000 ทางบก 3,000 เรามีกองกำลังที่ดูแลชายแดนตลอดแนว ได้มีการเพิ่มภารกิจสอดส่องดูแลกระบวนการลักลอบทายาเสพติด นอกจากนี้ยังมีการติดต่อกับประเทศลาว เพื่อให้ช่วยกันสอดส่องร่วมกันหากจับกุมได้เป็นคนชาติใดก็จับกุมได้เลยไม่ต้องขออนุญาต รวมถึงสำรวจผู้ที่ผ่านการบำบัดให้เข้ามาเป็นทหารเกณฑ์แบบสมัครใจเพื่อไม่ให้กลับไปเสพยาเสพติดอีก
ด้านพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวถึง มาตรการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า จะต้องมีมาตรการอย่างเด็ดขาดแต่อยู่ภายใต้ของกฎหมาย การทำเรื่องของการบำบัดโดยเฉพาะครอบครัวเชื่อว่าจะทำให้เรื่องยาเสพติดน้อยลง และสามารถการลดความรุนแรง กับผู้ที่มีอาการทางจิตเวช ซึ่งจะต้องหามาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เสพที่ได้รับการบำบัดกลับมาเสพและเกิดการคลุมคลั่งอีกครั้ง ซึ่งผู้ที่เข้ารับการบำบัดจะต้องมีการได้รับยารักษาอยู่ตลอด หากไม่ได้รับยาก็จะเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ดังนั้นชุมชนจึงเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการดูแล ผู้เสพยาเสพติด