'พิธา'คืนสภา 'ธนาธร'ผงาด กมธ. ชักธงรบ 'กองทัพ-เศรษฐีนายพล'
ความคึกคักของ“ขุนพลสีส้ม”ในเวลาที่แกนนำหลักกลับมาช่วยปั่นกระแสพร้อมหน้าพร้อมตา แม้การเลือกตั้งต้องรออีกกว่า 3 ปี แต่การทำงานในสภาแบบถึงลูกถึงคน และจี้จุดบอดได้ตรงจุด จะเป็นพลังเสริมให้ “ก้าวไกล”พร้อมที่จะสู้ศึกเลือกตั้งในทุกสนาม
Key Points :
- เมื่อ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" กลับเข้าสภา "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" นั่งกมธ.พิจารณาศึกษาแนวทางธุรกิจกองทัพ แฟนคลับสีส้ม ต่างจับตาการทำงานของ 2 คีย์แมน
- "ก้าวไกล-ก้าวหน้า" จับมือกับถล่ม "กองทัพ-นายพล" ชำแหละแผลธุรกิจสีเขียว สะท้อนสังคมเหลื่อมล้ำ เปิดแผลมรดก "3 ป."
- "พิธา-ธนาธร" รู้ดีว่าชัยชนะจากการเลือกตั้งมาจากกระแสเบื่อ "ลุง" เมื่อ "ลุง" ไม่อยู่ในสมการการเมือง จึงต้องกระทุ้ง "กองทัพ-นายพล" เก็บแต้มการเมืองต่อเนื่อง
เมื่อ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" แม่ทัพเลือกตั้งพรรคก้าวไกล กลับมาดำรงตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อ ทำให้พลพรรคสีส้มฟื้นคืนชีพกลับมาแข็งแกร่งและกระแสดีอีกครั้ง รอวัน ว. เวลา น. ปรับโครงสร้างพรรคโหวต “พิธา” กลับมานั่งหัวหน้าพรรคอีกคำรบ
อีกทาง "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ประธานคณะก้าวหน้า ถูกดึงเข้ามานั่ง กมธ.วิสามัญ ในสัดส่วนของพรรคก้าวไกล หลังจากที่ประชุมสภาฯ เห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาชุดหนึ่ง จำนวน 25 คน
เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางธุรกิจกองทัพ ตั้งแต่การถ่ายโอนธุรกิจต่าง ๆ ของกองทัพไปอยู่ในความดูแลของรัฐบาล การถ่ายโอนหน้าที่การให้บริการไฟฟ้าที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการของกองทัพไปอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของหน่วยงานที่กี่ยวข้องโดยตรง
รวมถึงศึกษาแนวทางการขอใช้ที่ดินราชพัสดุสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ในความครอบครองของกองทัพอากาศ เพื่อให้เป็นสวนสาธารณะในการดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน และพิจารณาแนวทางการย้ายสนามกอล์ฟกานตรัตน์ ออกมาพื้นที่แอร์ไซส์ สนามบินดอนเมือง เพื่อความปลอดภัยตามมาตรฐานองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ
ชำแหละขุมธุรกิจผูกขาด
ประเด็นเหล่านี้ มี 3 สส.ก้าวไกล เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อ เชตวัน เตือประโคน สส.ปทุมธานี เอกราช อุดมอำนวย สส.กทม. เป็นผู้เสนอ
จึงน่าสนใจ ในจังหวะขยับของ 2 คีย์แมนพรรคสีส้ม อย่างมีนัย โดยเฉพาะสัญญาณเปิดหน้ารบ “กองทัพ-นายพล”
โดยวาระดังกล่าว "เบญจา แสงจันทร์" เปิดฉากถล่ม ขอเปิดแหล่งขุมทรัพย์กองทัพที่เป็นความมั่งคั่งของนายพลหลายคนจนมีบัญชีทรัพย์สินหลายร้อยล้านบาท ขุมทรัพย์กองทัพที่เป็น “เส้นทางเศรษฐีนายพล”
ที่ราชพัสดุ กองทัพมีที่ดินราชพัสดุทั่วประเทศ 7.5 ล้านไร่ และธุรกิจอื่นๆ เช่น สนามมวย สนามกอล์ฟ สนามม้า นำที่ดินกองทัพไปจัดสรรให้กำลังพลซื้อบ้าน ใครจะร่วมโครงการกู้เงินซื้อบ้านต้องมีผู้บังคับบัญชาเซ็นให้ ผู้ได้ประโยชน์จากการเอาที่ดินรัฐไปให้กำลังพลคือ ผู้บังคับบัญชาที่สูบเลือดสูบเนื้อจากชั้นผู้น้อย
บอร์ดรัฐวิสาหกิจ 56 แห่ง มีทหารมาเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ไม่ตรงความชำนาญทหาร ทั้งบอร์ดรถไฟ ท่องเที่ยว ปตท. ธนาคาร บางคนเป็นบอร์ดหลายแห่ง งานสบาย ได้เงินหลายตำแหน่ง ไม่เคยตรวจสอบได้
งบกระทรวงกลาโหมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีหน่วยใดตรวจสอบได้ เป็นต้นเหตุทุจริต มีเงินทองซื้ออาวุธ มีการตั้งบริษัทของทหารรับงานในกองทัพ
คลื่นวิทยุโทรทัศน์กองทัพ 205 คลื่น มากสุดในประเทศ ได้เงินมหาศาล แต่ไม่เคยเปิดเผยเงินค่าเช่าคลื่น ขณะที่ค่าเช่าโครงข่ายทีวีดิจิทัล ททบ.5 ได้ค่าเช่าโครงข่าย 1,008 ล้านบาทต่อปี เป็นเสือนอนกินรับรายได้จากคลื่นวิทยุ - โทรทัศน์มหาศาล
และขุมทรัพย์ธุรกิจพลังงาน ทั้งน้ำมัน ไฟฟ้า โซลาร์ฟาร์ม ที่กองทัพมีกิจการเป็นของตัวเอง
เล็งซักฟอก "บิ๊กทิน"
ขณะที่ตัวตึงอย่าง “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ฉวยจังหวะซัดต่อกลางสภาว่า ธุรกิจกองทัพไม่ใช่หน้าที่ทหาร ไม่เกี่ยวกับความมั่นคงประเทศ แต่เป็นกลไกให้กองทัพมาพัวพันกับการเมือง และเศรษฐกิจในลักษณะรัฐซ้อนรัฐ เป็นแหล่งรายได้นอกระบบของนายพล เป็นวัฒนธรรมสกปรกที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ขาดความโปร่งใส แม้แต่องค์กรอิสระก็น้ำท่วมปาก
ธุรกิจกองทัพเป็นส่วนหนึ่งที่บ่อนทำลายความมั่นคงประเทศ ผลการประเมินดัชนี Government Defence Integrity Index 2020 (จีดีไอ)เป็นดัชนีชี้วัดคอร์รัปชันกองทัพ และหน่วยงานความมั่นคง ไทยถูกประเมินอยู่ระดับเสี่ยงมาก ประชาชนเข้าไม่ถึงงบประมาณกองทัพ
“วิโรจน์” สะท้อนว่า กองทัพปัจจุบันขาดสำนึกว่า เงินที่ใช้จ่ายทุกวันนี้คือ ภาษีประชาชน ไม่เคยให้ความร่วมมือผู้ตรวจการแผ่นดิน และกมธ.ทหาร เดี๋ยวจะรู้ว่า ประธาน กมธ.ทหาร จะจัดการกับรมว.กลาโหม อย่างไร
“หลายครั้งกองทัพไม่ให้ข้อมูล กมธ.ทหาร ผมจะส่งหนังสือถึงนายสุทินให้เร่งส่งข้อมูลมาที่ กมธ.ทหาร จะมีเส้นตายเพื่อยืนยันว่า หากยังไม่ส่งมา นายสุทินมีเจตนาไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ต้องห่วง เจออภิปรายไม่ไว้วางใจแน่”
“วิโรจน์” ฟาดไปถึงนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ด้วยว่า เคยรู้หรือไม่ งบกระทรวงกลาโหมถูกยกเว้นการรายงานตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ต่างจากกระทรวงอื่น ประชาชนไม่รู้ว่า ธุรกิจกองทัพมีรายได้เท่าไร อย่าบอกแค่รับไม่ได้ เพราะประชาชนรับไม่ได้มานานแล้ว
ปลุกแนวร่วมต้าน "กองทัพ" เก็บแต้ม
การขับเคลื่อนของ “ขุนพลสีส้ม” ท้ารบ “กองทัพ-นายพล” ซึ่งเป็นตัวแทนของอนุรักษนิยม แม้คู่ต่อสู้โดยตรงอย่าง “3 ป.” จะหมดอำนาจไปแล้ว แต่การมรดกทางทหารยังเหลืออยู่อีกเพียบ
ต้องยอมรับว่า “ก้าวไกล” มาไกลในศึกเลือกตั้งปี 2566 เพราะประกาศตัวชัดเจนว่า “มีเรา ไม่มีลุง” มาวันนี้ “ไม่มีลุง” แล้ว แต่ยังมี “กองทัพ-นายพล” ซึ่ง “ก้าวไกล” พยายามสร้างปีศาจตัวใหม่ให้เห็นความไม่เท่าเทียม เลี้ยงเชื้อ-เลี้ยงกระแส เอาไว้ เพื่อเก็บแต้มทางการเมือง
ที่สำคัญ สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม แสดงจุดยืนไม่แตกหัก “กองทัพ” พยายามใช้ไม้อ่อน จึงกลายเป็นจุดอ่อนให้ “ก้าวไกล” มีโอกาสสร้างคะแนนนิยม จึงไม่แปลกที่ “ธนาธร” ออกมาประจันหน้า นั่งเก้าอี้ กมธ. ด้วยตัวเอง
ความคึกคักของ“ขุนพลสีส้ม”ในเวลาที่แกนนำหลักกลับมาช่วยปั่นกระแสพร้อมหน้าพร้อมตา แม้การเลือกตั้งต้องรออีกกว่า 3 ปี แต่การทำงานในสภาแบบถึงลูกถึงคน และจี้จุดบอดได้ตรงจุด จะเป็นพลังเสริมให้ “ก้าวไกล”พร้อมที่จะสู้ศึกเลือกตั้งในทุกสนาม