'ดีอีเอส' ผนึก 'สอบสวนกลาง' รวบ 20 ตัวการเว็บพนันมูลค่าเสียหาย 69 ล.
'ประเสริฐ' เผย 'ดีอีเอส-บช.ก.' ร่วมจับกุม 20 ตัวการพนันออนไลน์ ยึดของกลางเพียบรวม 69 ล้านบ. พบนำเงินผิด กม.ไปเปิดฟาร์มกระบือสวยงามระดับแชมป์ตัวละหลายล้าน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า กระทรวงดีอีเอส ร่วมกับ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) และพันธมิตร จับกุมผู้ต้องหาความผิดเกี่ยวกับพนันออนไลน์ จำนวน 44 ราย แบ่งเป็น ระดับตัวการ 20 ราย และบัญชีม้า 24 ราย พร้อมของกลางและสิ่งของที่ตรวจยึดจำนวน 1,913 รายการ มูลค่ารวมประมาณ 69 ล้านบาท
โดยการร่วมจับกุมผู้กระทำผิดในครั้งนี้ กระทรวงดีเอส ได้ตรวจสอบพบผู้ลักลอบเปิดเว็บไซต์ชักชวนให้ประชาชนเล่นการพนันออนไลน์ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและสังคม จึงประสานงานให้ตำรวจสอบสวนกลางดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดดังกล่าว
สำหรับของกลางที่ยึดได้ ประกอบด้วย 1.เงินสด พร้อมตู้เซฟนิรภัย รวมจำนวน 8,754,580 บาท, 2.เครื่องนับธนบัตร รวมจำนวน 2 เครื่อง, 3.สร้อยทองพร้อมพระเลี่ยมทอง รวมจำนวน 5 เส้น, 4.ทองคำแท่งและทองรูปพรรณ หนักประมาณ 65 บาท มูลค่าประมาณ 2,379,000 บาท, 5.กระเป๋าและเครื่องประดับแบรนด์เนม รวมจำนวน 20 รายการ, 6.โฉนดที่ดิน (อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด 34 ไร่ และ จ.มหาสารคาม 5 ไร่), 7.กระบือพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ชื่อ จ้าวเพชรสาเกต และมีตังค์ รวม 2 ตัว ราคา 5,600,000 บาท
8.กระบือสวยงาม และโคพันธุ์บารห์มัน รวม 22 ตัว, 9.รถยนต์ 10 คัน, 10.รถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน, 11.รถจักรยานยนต์ 2 คัน, 12.รถ ATV จำนวน 2 คัน, 13.อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน รวมจำนวน 6 กระบอก, 14.สมุดบัญชีธนาคาร (เป็นบัญชีม้ารวมจำนวน 928 เล่ม), 15.บัตร ATM สำหรัยกดเงินบัญชีม้ารวม 675 ใบ, 16.โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต รวม 596 เครื่อง, 17.ซิมการ์ดพร้อมใช้ รวม 441 ชุด, 18.พาสปอร์ตคนต่างด้าว รวม 76 ชุด และ 19.ชุดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ 13 เครื่อง
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากการสืบสวนโดยละเอียดในทุกมิติ พบว่าผู้กระผิดเป็นกลุ่มคนที่มีอายุช่วงวัยรุ่นถึงวัยทำงาน มีฐานะร่ำรวยผิดปกติ ภายในช่วงระยะเวลาไม่นาน และจากการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน ประกอบกับพยานหลักฐานอื่น น่าเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจริง จึงนำไปสู่การขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องจำนวน 63 หมายจับ และสามารถขอหมายค้นสถานที่ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนันจำนวน 31 จุดทั่วประเทศ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางร่วมกับสำนักงานป้องปันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ได้จำนวน 44 คน แบ่งเป็นกลุ่มผู้รับผลประโยชน์ 5 คน, กลุ่มเปิดบัญชีม้า 24 คน, กลุ่มคนกด-ถอนเงินหน้าตู้เอทีเอ็ม 8 คน และกลุ่มพนักงานทำเว็บพนัน 7 คน จึงนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อว่า จากการสอบถามคำให้การเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหารับว่าได้กระทำความผิดจริง โดยแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการ เริ่มตั้งแต่กระบวนการจัดหาบัญชีม้า, กระบวนการเปิดบัญชีม้า, กลุ่มคนทำเว็บพนัน (แอดมิน, คนทำกราฟฟิก,คนทำบัญชี) และกลุ่มผู้รับผลประโยชน์ โดยแต่ละกลุ่ม ได้รับผลประโยชน์เป็นทรัพย์สินแตกต่างกัน
โดยกลุ่มนายหน้าจัดหาบัญชีม้าพร้อมใช้ ได้รับเงินค่าจ้างจากเจ้าของเว็บหรือผู้จ้าง จำนวน 6,500-15,000 บาท โดยจะเอาเงินไปให้ผู้เปิดบัญชีเป็นค่าตอบแทนตั้งแต่ 1,500-3,000 บาท ซึ่งบางรายได้ รายเดือนเดือนละ 500 บาทต่อบัญชี หากเป็นบัญชีคนไทยจะได้รับค่าตอบแทนที่ต่ำกว่าบัญชีของคนต่างด้าว
นอกจากนี้ยังมีลักษณะการเช่าบัญชีม้ารายเดือน เดือนละ 5,000-10,000 บาท หากบัญชีม้าที่กลุ่มนายหน้าจัดหามาเกิดมีการปิดบัญชี หรือไม่ส่งมอบเงินให้ตามที่ตกลง ก็จะมีกลุ่มบุคคลเข้าไปติดตาม ทำร้ายร่างกาย
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวอีกว่า กลุ่มผู้ถอนเงินหน้าตู้เอทีเอ็ม จะได้เงินค่ากดเงินครั้งละ 1,000-50,000 บาท เป็นรายครั้ง หากถอนเงินหน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร จะได้รับค่าตอบแทนที่สูงกว่า แล้วแต่จำนวนยอดรวมที่กดเงินออกมา, กลุ่มพนักงาน (แอดมิน,คนทำบัญชี,ฝ่ายโฆษณา และคนทำระบบ) ได้รับค่าตอบแทนรายเดือน รวมกับโบนัสเป็นแรงจูงใจจากเจ้าของเว็บพนัน ซึ่งแล้วแต่ตกลงกัน
สุดท้ายกลุ่มผู้รับผลประโยชน์จะนำเงินที่ได้จากเว็บพนัน ไปซื้อทรัพย์สิน และเอาไปฟอกในธุรกิจที่ถูกกฎหมาย ซึ่งในกรณีนี้มีการตรวจยึดฟาร์มกระบือสวยงาม ระดับพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ ดีกรีแชมป์การประกวดกระบือ ราคาตัวละหลายล้านบาท พบเปิดมาแล้วหลายปี มีการเผยแพร่ออกสื่อแล้วหลายครั้ง.