43 ปี 'กปร.' สืบสานงานพระราชดำริ พัฒนา ส่งเสริม สร้างโอกาส ขยายผลองค์ความรู้
43 ปี กปร. สืบสานงานพระราชดำริ ร่วมพัฒนา ส่งเสริม สร้างโอกาสขยายผลองค์ความรู้ ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง ขยายผลศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ 221 แห่ง กระจายในพื้นที่ทั่วประเทศ
ในการดำเนินงานเพื่อสนองพระราชดำริของหน่วยงานต่างๆ นั้น หากต่างฝ่ายต่างทำขาดการประสานงานความซ้ำซ้อน อาจเกิดขึ้นเพื่อความสอดคล้องซึ่งกันและกัน อันจะบรรลุผลตามแนวพระราชดำริที่ได้พระราชทานไว้ รัฐบาลจึงได้จัดระบบการสนองพระราชดำริขึ้นในปี 2524 โดยออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พ.ศ.2524 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2524 โดยกำหนดให้มีองค์กรระดับชาติที่ทำหน้าที่รับผิดชอบโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเรียกโดยย่อว่า “สำนักงาน กปร.”
นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. เปิดเผยว่าโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ครอบคลุมในทุกด้านทั้งแหล่งน้ำ คุณภาพชีวิตของพสกนิกร การสาธารณสุข การศึกษา การรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และความมั่นคงของชาติ
โดยเฉพาะการพัฒนาแหล่งน้ำเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตและประกอบอาชีพ และพระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริขึ้น จำนวน 6 แห่ง ในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อทำหน้าที่ศึกษา วิจัย ทดลอง ภายใต้บริบทภูมิประเทศและภูมิสังคม จนประสบความสำเร็จแล้วนำไปขยายผลสู่ประชาชน
โดยให้ประชาชนเข้าไปเรียนรู้แบบไม่มีค่าใช้จ่าย นำสิ่งที่ได้เรียนรู้ทั้งด้านการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ การแปรรูปผลผลิต ตลอดจนการพัฒนาด้านต่าง ๆ ทั้งดิน น้ำซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการผลิตเหล่านั้นไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพและดำเนินชีวิต
ปัจจุบันมีการขยายผลศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริมากถึง 221 แห่ง กระจายในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ พฤษภาคม 2567) เพื่อเป็นแหล่งถ่ายทอดความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ที่หลากหลาย นับตั้งแต่เกษตรผสมผสาน เกษตรทฤษฎีใหม่ การประมง ปศุสัตว์ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไปจนถึงการแปรรูปและหัตถกรรม
ในปี 2567 สำนักงาน กปร. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พัฒนาต่อยอดผลผลิตและผลิตภัณฑ์ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ศูนย์สาขาฯ เกษตรกรขยายผลฯ และผลิตภัณฑ์จากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริให้ได้รับเลขที่จดแจ้งมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อย. จำนวนกว่า 70 รายการ ทำให้มีช่องทางการตลาดเพิ่มขึ้น
นอกจากการส่งเสริมและสนับสนุนด้านการตลาดในภาพรวมทั้งห่วงโซ่คุณค่าแห่งการพัฒนาแล้ว สำนักงาน กปร. ยังได้สนับสนุนด้านช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ศูนย์สาขาฯ และเกษตรกรขยายผลในพื้นที่ โดยการจัดตั้งอาคารร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานชื่อจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตรราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 4 แห่ง
ประกอบด้วย อาคารสิริพัฒนภัณฑ์ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ จ.จันทบุรี ร้านเลิศพัฒนภัณฑ์ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ จ.สกลนคร ร้านบวรพัฒนภัณฑ์ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายฯ จ.เพชรบุรี ร้านพิกุลเกษตรภัณฑ์ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ จ.นราธิวาส และร้านพวงคราม ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ จ.ฉะเชิงเทรา
นอกจากนี้ สำนักงาน กปร. ยังร่วมมือกันระหว่างมูลนิธิชัยพัฒนา มูลนิธิทันตนวัตกรรมในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการต่อยอดการใช้ประโยชน์จากหญ้าแฝก และพืชสมุนไพรในการส่งเสริม ป้องกัน รักษา ฟื้นฟูประชาชนผู้มีปัญหาด้านทันตกรรม อีกด้วย
ในโอกาสครบรอบวันสถาปนา 43 ปี สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่ทำหน้าที่ในการประสานงานกับหน่วยงานที่ร่วมสนองงานพระราชดำริ ขอสืบสานพระราชปณิธานด้วยความจงรักภักดี และจักมุ่งมั่นเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท เพื่อร่วมกันพัฒนา ส่งเสริมสร้างโอกาสขยายผลองค์ความรู้ สร้างสุข เปลี่ยนแปลงชีวิตให้มั่นคง สู่รอยยิ้ม ด้วยก้าวย่าง อย่างก้าวหน้า เพื่อความเจริญของสังคมไทยสืบไป