'มทร.ธัญบุรี' แจงปมออกข้อสอบ 'ทถ.' พลาด ยันโปร่งใส-พร้อมให้ตรวจสอบ

นายณัชติพงศ์ อูทอง รองอธิการบดี รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เปิดเผยว่า หลังจากที่มีกรณีข้อทักท้วงเรื่องการออกข้อสอบสายงานบริหารท้องถิ่น จากข้าราชการส่วนท้องถิ่น ในสนามสอบ 9 จังหวัด ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีเป็นผู้ดำเนินการจัดสอบ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2567 ที่ระบุว่ามีการพิมพ์คำถามผิดพลาด และข้อสอบที่ไม่สามารถนำมาใช้งานจริงตามระเบียบหรือวิธีปฏิบัติของกระทรวงมหาดไทยและกรมส่งเสริมปกครองท้องถิ่น นั้น

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้ดำเนินการตรวจสอบ โดยตั้งคณะกรรมการทั้ง 2 ชุด ได้ประชุมพินิจพิเคราะห์ข้อสอบ และตอบข้อทักท้วง ดังนี้

1. ประเด็นการออกข้อสอบที่ไม่สามารถนำมาใช้งานจริงตามระเบียบหรือวิธีปฏิบัติของกระทรวงมหาดไทยและกรมส่งเสริมปกครองท้องถิ่นนั้น ทางคณะกรรมการ มีความเห็นยืนยันว่า แบบประเมินผลแผนพัฒนาท้องถิ่น จำนวน 3 ข้อ ตามแบบ 3/1 แบบ 3/2 แบบ 3/3 และขั้นการติดตามและประเมินผลแผนพัฒนาท้องถิ่น เป็นแบบประเมินผลที่ใช้อยู่จริงตามหลักและระบบการประเมินผลตามคู่มือการติดตามและประเมินผลการจัดทำและแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งในส่วนของปัจจัยนำเข้า การติดตามและการประเมินผล

"การติดตามและประเมินผลแผนพัฒนาท้องถิ่น เป็นแบบประเมินผลที่ใช้อยู่จริงตามหลักและระบบการประเมินผลตามคู่มือของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สามารถนำมาใช้จริงได้ตามระเบียบหรือวิธีปฏิบัติของกระทรวงมหาดไทยและกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ดังนั้นข้อสอบทั้ง3 ข้อนี้ไม่ต้องยกคะแนนให้กับผู้เข้าสอบทุกคน" นายณัชติพงศ์ กล่าว

2. ประเด็นข้อสอบหลายข้อพิมพ์ประโยคคำถามผิดทำให้ความหมายเปลี่ยน จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้เข้ารับการสอบเข้าใจคลาดเคลื่อนเลือกตัวจึงเลือกของคำตอบผิด โดยคณะกรรมการได้ตรวจสอบการออกข้อสอบว่าคลาดเคลื่อนในขั้นตอน และมีความเห็นว่า การออกข้อสอบ คณะกรรมการหรือคณะทำงานได้ทำตามขั้นตอนและหลักการของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และของกระทรวงมหาดไทยทุกขั้นตอน  และมีการตรวจสอบความถูกต้องก่อนส่งให้คณะกรรมการจัดพิมพ์ข้อสอบปรับแก้ไขให้ถูกต้องและจัดหน้ากระดาษข้อสอบ

"ในกรณีที่ข้อสอบพิมพ์ผิดพลาด ทำให้ความหมายเปลี่ยน ทำให้ผู้เข้าสอบเข้าใจคลาดเคลื่อนและเลือกคำตอบผิดนั้น ในประเด็นนี้ มหาวิทยาลัยและคณะกรรมการฯ เห็นว่า ผู้เข้าสอบทุกคนควรจะต้องใช้วิจารณญาณในการวิเคราะห์ข้อคำถามและคำตอบที่คิดว่าถูกต้องเท่านั้น" นายณัชติพงศ์ กล่าว

3.ประเด็นที่ทักท้วง เรื่องตัวเลือกของคำตอบซ้ำกันมากกว่าหนึ่งตัวเลือกนั้น คณะกรรมการฯ เห็นว่า ในการดำเนินการจัดทำข้อสอบ จะมีคำแนะนำในการทำข้อสอบอยู่ที่เอกสารข้อสอบทุกฉบับ เพื่อให้ผู้เข้าสอบอ่านทำความเข้าใจให้ถูกต้องและสามารถใช้วิจารณญาณในการเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียวเท่านั้น เป็นหลักการคิดวิเคราะห์ข้อถูกและข้อผิดของคำตอบ ดังนั้นผู้เข้าสอบจึงต้องเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว อย่างไรก็ดีในการออกข้อสอบ ได้ตรวจสอบพบการพิมพ์ผิดพลาดบางส่วน  คณะกรรมการฯ จึงให้แก้ไขโดยยกประโยชน์ให้กับผู้เข้ารับการสอบ และประมวลผลคะแนนใหม่อีกครั้ง จึงทำให้มีผู้ผ่านเกณฑ์การสอบของภาคความรู้ความสามารถทั่วไป และภาคความรู้เฉพาะตำแหน่ง เพิ่มขึ้นจำนวนหนึ่ง และได้ส่งข้อมูลรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเพิ่มเติมไปให้ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

4. เรื่องการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ที่ใช้ในการออกข้อสอบไม่อยู่ในสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่เกี่ยวข้องกับการทดสอบความรู้ความสามารถทั่วไปในการปฏิบัติงานของข้าราชการส่วนท้องถิ่น  เช่นคำถามว่า “กรมตำรวจ” เปลี่ยนเป็น“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ตามพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ฉบับที่เท่าใด พ.ศ.ไหน ตามที่ผู้ทักท้วงยกตัวอย่างมานั้น  คณะกรรมการฯ มีความเห็นว่า การวัดความรู้ความสามารถทั่วไปของผู้เข้าสอบ คณะกรรมการออกข้อสอบสามารถใช้วิจารณญาณในการออกข้อสอบที่อยู่ภายในขอบเขตเนื้อหาของในการทดสอบความรู้ความสามารถทั่วไป เพื่อนำมาใช้วัดความรู้ทั่วไปของผู้เข้าสอบได้  

"มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ในฐานะผู้ดำเนินการจัดสอบสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งสายงานบริหารท้องถิ่น ได้ส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของการออกข้อสอบสรรหาข้าราชการส่วนท้องถิ่นให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหารครั้งนี้ รวมถึง รายงานผลการดำเนินการสอบภาค ก.และภาค ข. ที่ผ่านมา ให้กับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบแล้ว เพื่อยืนยันว่าทางมหาวิทยาลัยฯและคณะกรรมการฯได้ทำตามหลักการของกระทรวงมหาดไทยทุกขั้นตอน ที่โปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้" นายณัชติพงศ์ กล่าว.