‘นายกฯ’ คิกออฟ NCDs เชียงใหม่ หนุน คนไทยสุขภาพดี ป่วยน้อยลง
“นายกฯ” คิกออฟ NCDs เชียงใหม่ หนุนคนไทย ‘กินคาร์บ‘ เชื่อทำคนสุขภาพดี ป่วยน้อยลงรัฐบาลประหยัดงบฯ “สมศักดิ์” ตั้งเป้าชวนคนไทย 50 ล้านคน ร่วมนับคาร์บ พร้อมบรรยายสูตรคำนวณให้เขตสุขภาพ 1 - 2 รับฟัง เผยยอดร่วมนับคาร์บแล้ว 1.39 ล้านคน
ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานพิธีเปิดงานการขับเคลื่อนนโยบายคนไทยห่างไกลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ครั้งที่ 6 ที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนคม นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายกิตติกร โล่ห์สุนทร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ภูวเดช สุระโคตร นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)น.ส.ตรีชชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุขฝ่ายการเมือง นายสุรพล เกียรติไชยากร อดีตสส.เชียงใหม่ คณะผู้บริหารกระทรวง ให้การต้อนรับและนำชมบูธต่างๆ ภายในงาน
นายสมศักดิ์ กล่าวรายงานว่า การขับเคลื่อนนโยบาย คนไทยห่างไกลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs ในวันนี้ เพื่อตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้แถลงต่อที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันท่ี 12 ก.ย. 2567 มีใจความเน้นย้ําถึงความสําคัญของเครือข่ายสาธารณสุข โดยเฉพาะ อสม. ในการทํางานส่งเสริม ป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจขาดเลือด เป็นต้น ในปีงบประมาณ 2568 กระทรวงสาธารณสุข กําหนดนโยบาย คนไทยห่างไกลโรคและภัยสุขภาพ ซึ่งมุงเน้นการส่งเสริมสุขภาพ และความสําคัญของการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะการนับคาร์บ และการออกกําลังกาย ควบคู่ไปกับการผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.อสม. เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับ อสม. และสร้างอสม.ให้กลายเป็นกลไกสําคัญเพื่อแก้ปัญหาโรค NCDs ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไปในอนาคต
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขได้จัดงาน การขับเคลื่อนนโยบาย คนไทยห่างไกลโรค NCDs มาแล้ว 5 ครั้ง น้อง อสม. ได้เรียนรู้เรื่องการนับคาร์บ ไปแล้กว่า 7 แสนคน และมีประชาชนทั่วไป ร่วมนับคาร์บกันแล้วกว่า 1.39 ล้านคนวันนี้ เป็นการจัดงานครั้ง 6 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้เข้าร่วมงาน on-site ประกอบด้วย ผู้บริหารทั้งจากส่วนกลางและ ส่วนภูมิภาค องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพี่น้องประชาชน ประมาณ 5,000 คน และอีกประมาณ 250,000 คน ซึ่งเข้าร่วมประชุม ผ่านระบบออนไลน์ จาก เขตสุขภาพที่ 1 จํานวน 8 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลําพูน ลําปาง แพร่ น่าน พะเยา และในเขตสุขภาพที่ 2 จํานวน 5 จังหวัด ได้แก่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ รวมทั้งสิ้น 13 จังหวัดที่สําคัญ กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งเป้หมายที่จะเชิญชวน อสม. และประชาชนชาวไทย ร่วมกันนับคาร์บให้ได้ 50 ล้านคน ให้สําเร็จภายในปีงบประมาณ 2568 พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมป้องกัน โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ณ สาธารณสุขอําเภอทั่วประเทศ การจัดงานในวันนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้น สร้างความมั่นคงยั่งยืนให้กับระบบ สาธารณสุขของไทยต่อไป
ต่อมา น.ส.แพทองธาร กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า วันนี้ดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเจอทุกท่านในที่นี้ และกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนให้คนไทยทุกคนมีสุขภาพที่ดีขึ้น เขาบอกกันว่าร่างกายของเราเปรียบเสมือนบ้าน ถ้าบ้านของเราสะอาด อากาศถ่ายเท คนที่อยู่ก็รู้สึกสบาย รู้สึกว่าอยู่แล้วรีเลกซ์ และได้พักผ่อนก็เหมือนร่างกายของเรา ถ้าเราได้ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี รู้ว่าอาหารแบบไหนทำให้ร่างกายของเราลดโอกาสเจ็บป่วยก็จะทำให้เราปลอดภัยจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ก็แม้จะไม่ติดต่อแต่ผู้ป่วยจากทุกข์ทรมาน ซึ่งโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เป็นหนึ่งในโครงการที่น่าสนับสนุนเป็นอย่างมาก นอกจากให้ความรู้แล้วยังสนับสนุนให้ทุกท่านดูแลตัวเอง ในส่วนที่ไม่ได้ยากเป็นส่วนที่ง่ายที่สามารถทำได้ทุกวัน หากประชาชนป่วยน้อยลงมีสุขภาพดีขึ้น รัฐบาลก็ประหยัดงบประมาณในการดูแลเรื่องค่าเจ็บป่วยต่างๆที่ยาวนานและเรื้อรัง ซึ่งถือว่าวินวินทั้ง 2 ฝ่ายประชาชนและรัฐบาล ฉะนั้นเป็นสิ่งที่น่าสนับสนุนเรื่องโครงการคนกินคาร์บหรือการรับประทานคาร์โบไฮเดรต แป้งที่เหมาะสมต่อวัน เพราะหากกินแป้งสุดท้ายก็จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล ขณะนี้มีแป้งทางเลือกอยู่ก็อยากให้ประชาชนเลือกกิน สิ่งเหล่านี้สอนต่อให้ลูกหลานได้ เพื่อจะทำให้มีสุขภาพที่ดี และตนขอให้กำลังใจอสม. ทุกท่าน คือบุคลากรที่จะช่วยสนับสนุนโครงการนี้ เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี ห่างไกลโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทยต่อไป
จากนั้นนายกฯทำพิธีเปิดงานและร่วมถ่ายภาพกับ อสม. ที่ต่างพร้อมใจกันชูทัพพี เพื่อเป็นสัญลักษณ์เริ่มต้นการนับคาร์บ
ทั้งนี้ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาถึง นายสมศักดิ์ ได้บรรยายพิเศษ “รมว.พานับคาร์บ” ให้กับอสม.เขตสุขภาพที่ 1 และ 2 โดยกล่าวว่า ก่อนจะบรรยายการนับคาร์บ อยากจะพูดถึงความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ.อสม.ที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ขณะนี้ยังค้างอยู่ที่กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เนื่องจากยังสอบถามเรื่องกองทุน อสม. โดยตนได้ชี้แจงและคอยติดตามทุกระยะ เมื่อจบจากกรมบัญชีกลางแล้ว ก็จะส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีร่างพ.ร.บ.อสม.ฉบับของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวที่ได้เสนอเข้าสภาผู้แทนราษฎร เปิดให้ประชาชนทำประชาพิจารณ์เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา จากนี้จะส่งให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงนาม เพราะเป็นกฎหมายการเงิน ก่อนส่งกลับไปยังสภาฯ อีกครั้ง สาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.อสม.คือเรื่องเงินกองทุนเพิ่มขึ้นมา เพื่อให้นำเงินจากการจับกุมผู้ค้ายาเสพติด จากการแจ้งเบาะแสร้อยละ 5 หากไม่มีผู้ใดแสดงตัวขอให้นำเงินส่วนนี้เข้ากองทุน อสม. อีกทั้ง หากอสม.ช่วยรณรงค์การลดโรค NCDs มีผู้เจ็บป่วยน้อย ทำให้สามารถลดงบประมาณ จากที่สูญเสียในปี 67 ราว 79,537 ล้านบาท คิดเป็น 52% ของงบประมาณ สปสช. ปี 67 วงเงิน 152,738 ล้านบาท ตนก็ขอให้นำส่วนต่างมาเข้ากองทุนให้ อสม.นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านแห่งประเทศไทยร่างบันทึกความตกลงร่วมกันกับ ธ.ก.ส.เพื่อปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ คาดว่า ม.ค.- ก.พ.67 เข้าสู่ระบบการกู้ได้ นโยบายเราวันนี้โรค NCDs ดีได้ก้วยกลไก อสม. ขอให้ร่วมมือร่วมใจกัน
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า โรคไม่ติดต่อเรื้อรังหรือ NCDs เกิดจากการกิน การสูบบุหรี่ ดื่มสุรา เป็นหลัก แต่การบุหรี่มวนอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ไฟฟ้า แต่วันนี้จะมาเน้นย้ำเรื่องรับประทานคาร์บ หรือคาร์โบไฮเดรตในแต่มื้อ ในรายงานคนเสียชีวิต NCDs ปีละ 4 แสนราย ผู้ป่วย NCDs รายใหม่ปีละ 2 ล้านราย สูญเสียมู่ค่าทางเศรษฐกิจจากโรคนี้ 1.6 ล้านล้านบาทต่อปี คนไทยป่วย NCDs 33 ล้านคน แบ่งเป็น ความดัน 14 ล้านคน เบาหวาน 6.5 ล้านคน ไตเรื้อรัง 1 ล้านคน มะเร็ง 4.4 แสนคน ปัญหาสุขภาพจิต 10 ล้านคน นายสมศักดิ์ บรรยายการนับคาร์บ เพื่อให้ทราบถึงสัดส่วนการรับประทานข้าวหรือคาร์บในแต่ละมื้อของแต่ละคนที่สามารถรับประทานได้ ตามสูตรคำนวณของแฮริส เบเนดิก อิเควชั่น นักวิทยาศาสตร์ที่ได้คิดค้นสูตรคำนวณมาเป็นเวลาร้อยปี และได้ผลอย่างแท้จริง พร้อมกันนี้ได้เชิญ น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง ซึ่งเป็นพรีเซ็นต์เตอร์ลดคาร์บ ขึ้นเวทีร่วมสาธิตการนับคาร์บ พร้อมทั้งเชิญชวนอสม.ชายขึ้นเวที เพื่อเป็นตัวอย่างในการคาร์บแล้วสุขภาพดี โดย อสม.ให้ความสนใจ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก