กปร. -ห้วยฮ่องไคร้ ขยายเพิ่ม เครือข่ายศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ

สำนักงาน กปร. ร่วมกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ ขยายเสริมเพิ่มเครือข่ายศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ
กว่า 40 ปี ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินงานตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพื้นที่ 8,500 ไร่ ที่เป็นป่าเสื่อมโทรมให้คืนสู่ความสมบูรณ์ พร้อมจัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริขึ้น ทำหน้าที่ศึกษาทดลองและจัดทำแปลงสาธิตในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้และนำไปปฏิบัติใช้ในพื้นที่ของตนเอง
ปัจจุบันประสบความสำเร็จพร้อมขยายเครือข่ายการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ โดยมีสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) สนับสนุนและประสานงาน ภายใต้แนวทาง “ต้นทางคือป่าไม้ ปลายทางคือประมง ระหว่างทางคือเกษตรกรรม” มีหลักสูตรฝึกอบรมที่โดดเด่น 32 หลักสูตร ใน 5 ด้าน ประกอบด้วย ดิน น้ำ ป่าไม้ พืช และประมง ในปี 2567 มีจำนวนผู้เข้าอบรมกว่า 662 คน และศึกษาดูงานกว่า 16,744 คน และยกระดับเป็นศูนย์เรียนรู้ 23 แห่ง มีเกษตรกรขยายผลที่ประสบความสำเร็จ 192 ราย
นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. เปิดเผยว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ ได้จัดตั้งศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ 80 แห่ง ซึ่งผ่านเกณฑ์ประเมินกระจายอยู่ในพื้นที่ 10 จังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย ประชาชนและเกษตรกร 43 แห่ง สถานศึกษา 25 แห่ง องค์กรภาครัฐ 7 แห่ง ศูนย์ฝึกอาชีพสำหรับผู้ด้อยโอกาส 2 แห่ง ชุมชนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ 2 แห่ง และกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์ชุมชน 1 แห่ง เช่น ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ ด้านเกษตรผสมผสาน ของนายสุริยะ วงศ์คำ ราษฎรหมู่ที่ 5 ตำบลบ้านโป่ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ รูปแบบเกษตรผสมผสาน ตามบริบทและความเหมาะสมของพื้นที่ มีการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติใช้ มีการเลี้ยงไก่ไข่ ไก่ประดู่หางดำ กบนา ปลานิล ปลาดุก ผลิตอาหารสัตว์ เมล็ดพันธุ์ผัก ก้อนเชื้อเห็ด ปัจจุบันมีรายได้หลังจากหักต้นทุนแล้วเฉลี่ยในรอบ 3 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2564 - 2566 ที่ 113,800 บาทต่อปี
“เริ่มต้นจากพื้นที่ 9 ไร่ เลี้ยงสัตว์ปลูกพืชให้ผล เช่น มะพร้าว กล้วย ฝรั่ง ผักเชียงดา ส่งขายตลาดในชุมชน มีรายได้ประจําวันเป็นพืชผัก รายสัปดาห์เป็นมะพร้าว กล้วย ส่วนรายได้รายปีเป็น ปลา ข้าว โดยจะวางแผนการเพาะปลูกให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด มีการถ่ายทอดให้ผู้สนใจโดยเน้นทำกินแบบลงทุนตามกำลังที่มี ขอขอบคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ได้พระราชทานพระราชดําริให้จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ แห่งนี้เพื่อให้ประชาชนเข้าไปเรียนรู้ นำมาสร้างอาชีพทำให้มีกินมีใช้ มีเก็บ สามารถดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข” นายสุริยะ วงศ์คำ กล่าว
ส่วนศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ ด้านเกษตรผสมผสาน ของ นายบุญฤทธิ์ ไชยยอง หมู่ที่ 11 ตำบลหนองยวง อำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน มีกิจกรรมเพื่อการศึกษาดูงานหลากหลาย เช่น การเลี้ยงปลาดุก การแปรรูปสัตว์น้ำ ปลูกและแปรรูป ผักเชียงดา มีรายได้หลังจากหักต้นทุนแล้วเฉลี่ย 3 ปี ย้อนหลัง (พ.ศ.2564 - 2566) 116,667 บาทต่อปี ที่ปัจจุบันมีผู้สนใจเดินทางเข้าศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่อง
นายอัฏฐวิชย์ นาควัชระ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 1 รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปิดเผยว่า ปัจจุบันศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ ได้ทำหน้าที่เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ภาคเหนือ มีบทบาทสำคัญในการขยายเครือข่าย การพัฒนาตามแนวพระราชดำริ ร่วมกับสำนักงาน กปร. ซึ่งปัจจุบันได้นำผลการศึกษา วิจัย และสาธิตทดสอบ รูปแบบการพัฒนาด้านต่าง ๆ
นอกเหนือจากการช่วยให้ราษฎรในพื้นที่ได้รับการยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นแล้ว ก็ยังมีการขยายผลสู่การดำเนินงานในหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ภาคเหนือ อีกด้วย อาทิ ศูนย์เรียนรู้ประเภทหน่วยงานภาครัฐ เรือนจําชั่วคราวสังกัดเรือนจํากลางเชียงราย ในส่วนของเรือนจําชั่วคราวดอยฮาง และสถานศึกษา เพื่อปลูกฝังให้เยาวชนได้เรียนรู้การพัฒนาตามแนวพระราชดำริ เป็นต้น
ด้านนายวิเนียร แก้วนิลตา เจ้าพนักงานราชทัณฑ์อาวุโสปฎิบัติหน้าที่หัวหน้าเรือนจําชั่วคราว สังกัดเรือนจํากลางเชียงราย ในส่วนของเรือนจําชั่วคราวดอยฮาง ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ ด้านหน่วยงานภาครัฐ เปิดเผยว่า ทางเรือนจำได้จัดทำโครงการเปิดทางผู้ต้องขังที่ใกล้จะพ้นโทษมาฝึกวิชาชีพมีการปลูกพืชผัก เลี้ยงสัตว์ การเปิดร้านขายกาแฟเพื่อสร้างโอกาสในการปรับตัวของผู้ต้องขังก่อนออกไปใช้ชีวิตตามปกติในสังคม จะได้มีความรู้ด้านอาชีพติดตัว
“ทางเรือนจำเป็นเครือข่ายการขยายผลความสำเร็จจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ ซึ่งสนับสนุนบุคลากรมาให้ความรู้เรื่องการน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปฏิบัติใช้ และแนวทางการประกอบอาชีพที่มีความยั่งยืนแก่ผู้ต้องขัง ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2553 จวบจนปัจจุบัน มีผู้ต้องโทษที่ผ่านโครงการจำนวนมากไปประกอบอาชีพเพาะปลูกพืช ค้าขาย แล้วประสบความสำเร็จ มีกิน มีใช้ เพียงพอเลี้ยงครอบครัว และไม่มีการทำผิดกฎหมายซ้ำแล้วกลับเข้ามาเป็นผู้ต้องขังอีกเลย” นายวิเนียร แก้วนิลตา กล่าว
ส่วนนายบำรุงศักดิ์ บูระสิทธิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนแม่สะเรียง "บริพัตรศึกษา" สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาแม่ฮ่องสอน เป็นศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ ประเภทหน่วยงานภาครัฐ เปิดเผยว่า ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ ได้ขยายผลการดำเนินงานสู่โรงเรียนต่าง ๆ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนเกี่ยวกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมสนับสนุนปัจจัยการผลิตเพื่อจัดทำแปลงสาธิตให้แก่เด็กนักเรียน “โรงเรียนแม่สะเรียง "บริพัตรศึกษา" มีโรงเรียนเครือข่ายในจังหวัดแม่ฮ่องสอน 8 โรงเรียน ซึ่งได้รับการขยายผลหลักสูตรการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติใช้ และการจัดทำแปลงสาธิตประกอบการเรียนการสอนในโรงเรียนเหล่านั้นด้วย ทั้งหมดมี 9 ฐานการเรียนรู้ในโรงเรียน และยังได้เปิดให้กับชุมชนเข้ามาศึกษาเรียนรู้ที่โรงเรียนด้วย โดยมีเด็กนักเรียนเป็นมัคคุเทศก์น้อยนำชมฐานต่าง ๆ เช่น ฐานมัลเบอร์รี่ ฐานรวมพลคนเลี้ยงปลา ฐานการจัดการขยะ เป็นต้น” นายบำรุงศักดิ์ บูระสิทธิ์ กล่าว
สำหรับศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ ได้เริ่มจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2553 เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ได้รับองค์ความรู้จากศูนย์ศึกษาฯ หรือศูนย์สาขาฯ จนสามารถนำไปใช้ในการประกอบอาชีพเกิดผลสำเร็จ และมีคุณสมบัติพร้อมในการถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ให้บุคคลทั่วไปเข้ามาศึกษาเรียนรู้ได้ ซึ่งในปี 2567 มีศูนย์เรียนรู้ที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน จำนวน 221 แห่งจากทั่วประเทศ ประกอบด้วยประเภทประชาชนทั่วไป กลุ่มหรือชุมชน สถานศึกษา และหน่วยงานรัฐ ซึ่งมีองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ ในด้านต่างๆ ที่หลากหลาย ได้แก่ ด้านเกษตรผสมผสาน เกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรปลอดสารพิษ เกษตรอินทรีย์ ประมง ปศุสัตว์ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และอื่น ๆ ซึ่งสำนักงาน กปร. ได้มีการจัดทำโครงการ “ขยายเสริมเพิ่มเครือข่ายศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ” ขึ้น โดยได้มอบใบประกาศ โล่เชิดชูเกียรติให้แก่ศูนย์เรียนรู้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการดำเนินงานขยายผลสู่ผู้สนใจต่อไป