'ไอเอฟดีโพล' เผยผลสำรวจ 6เดือน 'รัฐบาล-นายกฯ' ชี้ประชาชนไม่พอใจ

'ไอเอฟดีโพล' เผยผลสำรวจ 6เดือน  'รัฐบาล-นายกฯ' ชี้ประชาชนไม่พอใจ

"ไอเอฟดีโพล" เผย ประชาชน ไม่พอใจ ผลงานรัฐบาล-แพทองธาร 6 เดือนแรก เหตุขาดความโปร่งใส ขาดประสิทธิภาพการทำงาน "นักวิชาการ" แนะเร่งเรียกความเชื่อมั่น ใน4เรื่องด่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไอเอฟดีโพล เผยถึงผลสำรวจเรื่อง ความพึงพอใจการทำงานของ น.ส.แพทองธาร  ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ในรอบ 6 เดือนแรก จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 1,303 ตัวอย่างกระจายทั่วภูมิภาค สำรวจ 28 ก.พ. - 3 มี.ค. 2568 โดยผลสำรวจระบุว่าผลงาน 6 เดือนแรก  ประชาชนไม่พึงพอใจมากและไม่ค่อยพอใจต่อรัฐบาล คิดเป็น 66.43% ขณะที่ประชาชนไม่พึงพอใจมากและไม่ค่อยพอใจต่อ น.ส.แพทองธาร คิดเป็น 66.77%

โดย 5 ประเด็นหลักที่ประชาชนไม่พึงพอใจมากและไม่ค่อยพอใจ ดังนี้   

ด้านการประเมินการทำงานรัฐบาล 
1. ขาดความโปร่งใสหรือตรวจสอบได้​  ​​​​​คิดเป็น 69.59% 
2. ยังขาดประสิทธิภาพและใช้ทรัพยากรไม่คุ้มค่า​​​​​ คิดเป็น 67.21% 
3. ยังไม่สามารถรับมือ แก้ปัญหา ตอบสนองตรงจุด ทันเวลา ​คิดเป็น​​66.26% 
4. ยังไม่รับผิดชอบต่อการตัดสินใจและผลที่ตามมาเท่าที่ควร คิดเป็น​​​​66.02% 
5. ลำเอียง การไม่ได้ดูแลทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม​​​​​ คิดเป็น65.45%

ขณะที่ผลสำรวจเพื่อประเมินการทำงานของ น.ส.แพทองธาร พบว่า
1. ขาดความโปร่งใส หรือ ตรวจสอบได้  ​​​​​​คิดเป็น 68.71% 
2. ใช้ทรัพยากรไม่คุ้มค่า หรือ ไม่เกิดประโยชน์สูงสุด ​​​​​ คิดเป็น 68.05%
3. ไม่สามารถขับเคลื่อนงานหรือนโยบายได้สำเร็จตามเป้าหมาย​​ ​คิดเป็น​67.22%
4. เลือกปฏิบัติ สองมาตรฐาน ไม่ยุติธรรม ​​​​​​คิดเป็น 67.07%
5. ยังไม่ส่งเสริมคนดีเป็นผู้นำและทีมงาน คิดเป็น ​​​​​​66.92%

\'ไอเอฟดีโพล\' เผยผลสำรวจ 6เดือน  \'รัฐบาล-นายกฯ\' ชี้ประชาชนไม่พอใจ

ทั้งนี้ นายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์  ประธานสถาบันการสร้างชาติ กล่าวถึงผลสำรวจดังกล่าวว่า

รัฐบาลและนายกฯ สามารถเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชนได้ จำเป็นต้องแก้ไขและพัฒนาใน 4 ด้านหลัก คือ 1.สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและแก้ปัญหาปากท้องประชาชน คือ  โดยเร่งปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจให้ทันสมัย บริหารหนี้สาธารณะ หนี้เอกชน และหนี้ครัวเรือนให้มีประสิทธิภาพ พร้อมรับมือกระแสการเปลี่ยนแปลงโลกให้ได้  รวมถึงลดการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีตามโควตาพรรคการเมือง แต่เป็นการคัดเลือกคนดีมีฝีมือที่มีความสามารถจริง แม้เป็นคนนอก เข้า‍มาขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง  

2.เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและใช้ทรัพยากรคุ้มค่า  โดยจัดลำดับความสำคัญในการใช้งบประมาณที่จำกัดได้มีประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และเพิ่มเม็ดเงินให้ภาคการผลิตที่สร้างมูลค่าจริง ไม่ใช่หว่านงบประมาณแบบไร้‍ทิศทาง และทบทวนโครงการประชานิยมที่ไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่แท้จริง

3.โปร่งใสตรวจสอบได้  โดยปฏิรูประบบราชการให้ปราศจากการ‍แทรกแซงของกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง สร้างกลไกตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ อุดช่องโหว่ระหว่างภาคการเมืองและราชการ ถ้ารัฐบาลต้องการความเชื่อมั่น ประชาชนต้องมั่นใจว่าเงินภาษีทุกบาทถูกใช้เพื่อพัฒนาประเทศ ไม่ใช่เติมกระเป๋าของกลุ่มคนบางกลุ่ม

และ 4.สร้างความเป็นเอกภาพ หรือเสถียรภาพของรัฐบาล ทั้งนี้ ประชาชนส่งเสียงดังฟังชัด ไม่พอใจรัฐบาลทั้งทีม  โดยพรรคร่วมรัฐบาลไม่อาจปัดความ‍รับผิดชอบ ทุกพรรคต้องร่วมกันสร้างเอกภาพ ลดความขัดแย้งทางการเมือง และแสดงให้เห็นว่าการบริหารประเทศต้องมาก่อนเกมอำนาจ ต้องปรับวัฒนธรรมการเมืองให้สร้างสรรค์ หยุดแบ่งพวกแบ่งพรรคเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน