มติปปช.เอกฉันท์ฟัน'สมศักดิ์'อดีตประธานสภา

มติปปช.เอกฉันท์ฟัน'สมศักดิ์'อดีตประธานสภา

ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ชี้มูลถอดถอน สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาฯ จงใจใช้อำนาจขัดรัฐธรรมนูญ กรณีร่วมแก้รัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของส.ว.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงก่อนที่ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ชี้มูลถอดถอน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาฯ จงใจใช้อำนาจขัดรัฐธรรมนูญ กรณีร่วมแก้รัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของส.ว.ด้วยว่า การประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ในวันนี้ (1 เม.ย.) ทางอนุกรรมการไต่สวนจะสรุปและรายงานสำนวน กรณีถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา กรณีร่วมกันแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มาส.ว.มิชอบ เพื่อให้พิจารณาชี้มูลความผิด

ทั้งนี้ หากที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดนายสมศักดิ์ จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที และรายงานดังกล่าวส่งต่อไปยังที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาลงมติถอดถอนและตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ต่อไป

ต่อมานายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมด้วยนายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการป.ป.ช. ร่วมกันแถลงมติป.ป.ช.ว่าที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิดฐานส่อจงใจใช้อำนานหน้าที่ขัดรัฐธรรมนูญให้ถอดถอน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะอดีตประธานรัฐสภา ออกจากตำแหน่งกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาสว. ไม่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งจะส่งเรื่องให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาดำเนินการถอดถอนต่อไปส่วนคดีอาญาอยู่ระหว่างการพิจารณา

นายวิชา กล่าวว่าที่ประชุมยังมีมติให้สอบพยานเพิ่มเติมในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวจำนวน3ปากจากที่นายกรัฐมนตรีร้องขอมา11ปากคือ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ส่วนพยานรายอื่นป.ป.ช.เห็นว่า ไม่เกี่ยวข้องจึงไม่อนุญาตส่วนคำร้องของนายกรัฐมนตรีที่ให้ยุติการสอบข้อเท็จจริงคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวป.ป.ช.จะนำไปรวมกับหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงของนายกรัฐมนตรีจำนวน151หน้าเพื่อพิจารณาต่อไป

เลขาฯวุฒิสภาเผยพิจารณาถอดถอน"สมศักดิ์"สมัยวิสามัญนี้ได้

นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา กล่าวว่า เบื้องต้นสามารถนำมาพิจารณาในการประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญได้ หากป.ป.ช.ส่งรายงานการชี้มูลกรณีดังกล่าวมาถึงวุฒิสภาในระหว่างสมัยประชุม โดยไม่จำเป็นต้องทำเรื่องไปยังสำนักงานเลขาธิการนายกฯ เพื่อเพิ่มเรื่องไว้ในพ.ร.ฏ.ขอเปิดประชุมวุฒิสภา สมัยวิสามัญตามที่ได้ประสานให้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้