แกะรอยเส้นทาง'เสี่ยโจ้'คนโตชายแดนใต้?

แกะรอยเส้นทาง'เสี่ยโจ้'คนโตชายแดนใต้?

เส้นทาง"เสี่ยโจ้"คนโตชายแดนใต้ "ธุรกิจไม้-น้ำมัน"ก่อนถูกทหารคุมตัว

เจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการปราบปรามภัยแทรกซ้อน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ควบคุมตัว นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือ "เสี่ยโจ้" เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) สหทรัพย์ทวีค้าไม้ โดยอาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึก ที่ จ.ปัตตานี

หจก.สหทรัพย์ทวีค้าไม้ ตั้งอยู่เลขที่ 103/49 ถนนนาเกลือ หมู่ 8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี ในเขตอุตสาหกรรมของ อบจ.ปัตตานี โดยเมื่อวันพุธที่ 18 มิ.ย. ทหารได้นำกำลังเข้าตรวจค้น พร้อมประสานให้ นายสหชัย ไปพบที่สำนักงานด้วย ก่อนจะคุมตัวส่งค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

ผลการตรวจค้น พบเอกสารต่างๆ ที่เป็นรายรับรายจ่ายการค้าไม้และน้ำมัน รวมทั้งสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร เงินสกุลบาทไทย เงินเหรียญสหรัฐ และเงินริงกิตมาเลเซียอีกจำนวนหนึ่ง

ที่สำคัญ เจ้าหน้าที่ตรวจพบหลักฐานเป็นตรายางประทับเข้า-ออกด่านชายแดนต่างๆ ของประเทศไทย เบื้องต้นได้ให้หน่วยตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดปัตตานีตรวจสอบ ปรากฏว่าเป็นของปลอม จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน ส่วนเรื่องการครอบครองไม้หวงห้าม รวมทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงเชิงลึก

หจก.สหทรัพย์ทวีค้าไม้ เคยถูกคณะทำงานภัยแทรกซ้อน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าตรวจค้นครั้งหนึ่งแล้วจนกลายเป็นข่าวเกรียวกราวเมื่อ 17 ต.ค.55 และสามารถยึดของกลางที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายได้หลายรายการ โดยเฉพาะรถบรรทุกดัดแปลงสำหรับขนน้ำมันได้คราวละ 15,000 ลิตร จำนวน 2 คัน และรถบรรทุกห้องเย็นที่ดัดแปลงสำหรับขนน้ำมันอีก 2 คัน เงินสดสกุลต่างประเทศและเงินบาทไทยประมาณ 23 ล้านบาท แต่คดีไม่คืบหน้ากระทั่งปัจจุบัน

แต่ต่อมาวันที่ 5 พ.ย.55 นายสหชัยได้เปิดแถลงข่าวที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ชี้แจงว่าการตรวจค้น หจก.สหทรัพย์ทวีค้าไม้ เจ้าหน้าที่ไม่ได้ยึดของกลางใดๆ เพราะไม่มีสิ่งใดผิดกฎหมาย พร้อมปฏิเสธว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับการค้าไม้เถื่อนและน้ำมันเถื่อนตามที่ถูกกล่าวหา รวมทั้งไม่เคยให้การสนับสนุนกลุ่มก่อความไม่สงบในการก่อเหตุรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย ส่วนธุรกิจของเขาทั้งเรื่องไม้และน้ำมัน ล้วนถูกต้องตามกฎหมาย

เรื่องราวค่อยๆ เงียบหายไป กระทั่งต้นเดือน ต.ค.56 เกิดกรณีคนร้ายปล้นเรือขนเงินสกุลดอลลาร์สิงคโปร์และริงกิตมาเลเซีย คิดเป็นเงินไทยราว 119 ล้านบาท ในทะเลอ่าวไทย ซึ่งต่อมาตำรวจกองปราบสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย โดยผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทเจ้าของเรือที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ คือ บริษัท สหทรัพย์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด อ้างว่าทำธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินตรา และกำลังนำเงินไปส่งให้ลูกค้าระดับวีไอพีที่เกาะโลซิน จ.ปัตตานี ทั้งๆ ที่เกาะดังกล่าวเป็นเกาะร้างขนาดเล็กกลางทะเล มีเนื้อที่เกาะไม่ถึง 100 ตารางเมตร ห่างฝั่งด้าน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี บริเวณชายหาดวาสุกรี ถึง 72 กิโลเมตร

เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงดังกล่าว ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเงินสดๆ 119 ล้านบาท เกี่ยวโยงกับธุรกิจผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดนใต้หรือไม่ และยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า บริษัทสหทรัพย์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของเรือ เป็นบริษัทในเครือเดียวกับ หจก.สหทรัพย์ทวีค้าไม้ หรือไม่

และแล้วเรื่องราวก็ค่อยๆ เงียบหายไปอีกครั้ง กระทั่งมีการนำกำลังเข้าตรวจค้น หจก.สหทรัพย์ทวีค้าไม้ และควบคุมตัว "เสี่ยโจ้" เมื่อ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา