อินทรีเหล็กจับตาย'เมสซี'

นัดชิงชนะเลิศกับ "ฟ้าขาว" อาร์เจนตินา ที่สนามมาราคานาวันที่ 13 ก.ค. คาดใช้ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ทำลายเกม ขณะที่ฟ้าขาวหวังปาฏิหาริย์ให้ อังเคล ดิ มาเรีย กองกลางคนสำคัญคืนสนามได้ทัน

ศึกฟุตบอลโลก 2014 นัดชิงชนะเลิศวันที่ 13 กรกฎาคม "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี จะพบ "ฟ้าขาว" อาร์เจนตินา ที่สนามมาราคานา เวลา 02.00 น. โดยในรอบที่ผ่านมา เยอรมนี เอาชนะ โปรตุเกส 4-0, เสมอ กานา 2-2 และชนะ สหรัฐ 1-0 ในรอบแรก ก่อนที่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเอาชนะ แอลจีเรีย ในการต่อเวลา 2-1, รอบ 8 ทีมสุดท้ายชนะ ฝรั่งเศส 1-0 และรอบรองชนะเลิศถล่ม บราซิล เจ้าภาพ 7-1

ขณะที่อาร์เจนตินา รอบแรกชนะ บอสเนีย 2-1, ชนะ อิหร่าน 1-0, ชนะ ไนจีเรีย 3-2, รอบ 16 ทีมสุดท้ายชนะ สวิตเซอร์แลนด์ ในการต่อเวลา 1-0 , รอบ 8 ทีมสุดท้ายชนะ เบลเยียม 1-0 และรอบรองชนะเลิศยิงลูกโทษชนะ ฮอลแลนด์ 4-2 หลังจากเสมอใน 120 นาที 0-0

โยอาคิม เลิฟ กุนซือทีมชาติเยอรมนี กำลังมีทีมที่ลงตัว และมีความมั่นใจเต็มที่ และจะยังคงเล่นระบบ 4-3-3 อย่างที่เล่นมาตลอดทัวร์นาเมนต์นี้ ซึ่งเชื่อว่าผู้เล่น 11 ตัวจริงไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงจากทีมที่ใช้มาใน 2 รอบหลังสุด แนวรับยังคงมี เฌอโรม บัวเต็ง เป็นเซ็นเตอร์แบ็กร่วมกับ มัตส์ ฮุมเมลส์ โดยที่ ฟิลิปป์ ลาห์ม กัปตันทีมจะทำหน้าที่เป็นแบ็กขวา และเบเนดิกท์ โฮเวเดส ทำหน้าที่เป็นแบ็กซ้าย

แดนหน้าจะยังเป็น 3 ประสาน บาสเตียน ชไวน์สเตเกอร์, ซามี เคดิรา และโทนี โครส ซึ่งจะเป็น ชไวน์สไตเกอร์ ที่รับหน้าที่เน้นเกมรับเป็นพิเศษคอยจัดการกับ ลิโอเนล เมสซี ขณะที่ โทนี โครส จะเป็นคนปั้นเกมรุก ส่วนแดนหน้ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลง มิโรสลาฟ โคลเซ กองหน้าตัวเก๋ายังคงได้เล่นเป็นตัวจริง และมี เมซุต โอซิล กับ โธมัส มุลเลอร์ คอยประสานงาน ทำให้ อังเดร ชูร์เล ยังต้องนั่งรอที่ม้านั่งสำรองต่อไป

ขณะเดียวกันทั้ง เลิฟ และลูกทีมต่างก็ได้ดูฟอร์มการเล่นของ ลิโอเนล เมสซี ในเกมรอบรองชนะเลิศกับ ฮอลแลนด์ เพื่อเตรียมแผนรับมือ และหวังว่าทีมจะทำผลงานเหมือนอย่าง ฮอลแลนด์ ที่สามารถหยุดการเล่นของ เมสซี จนเล่นไม่ออก

ฝั่งอาร์เจนตินา ของกุนซือ อเลฮานโดร ซาเบญา ยังคงเล่นในระบบ 4-2-3-1 แม้ว่าจะได้ เซร์คิโอ อาเกโร ฟิตกลับมาลงสนามแล้ว แต่ยังคงใช้การเล่นที่มี กอนซาโล อิกัวอิน เป็นกองหน้าเพียงคนเดียว เพื่อความแน่นในแดนกลาง และหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ที่ อังเคล ดิ มาเรีย ปีกคนสำคัญจะฟิตจากอาการบาดเจ็บกลับมาลงสนามได้ทัน หลังจากที่กลับมาซ้อมเบาๆ ได้แล้ว

แนวรับ ซาเบญา ยังคงมั่นใจตัวเก๋าอย่าง มาร์ติน เดมิเชลิส ให้เป็นเซ็นเตอร์แบ็กร่วมกับ เอเซเกล การาย ขณะที่แดนกลางจะใช้มิดฟิลด์เกมรับ 2 คน คือ ฮาเวียร์ มาสเชราโน กับ ลูคัส บีญา เพื่อทำลายเกมของเยอรมนี และเอาบอลไปให้ เมสซี ให้ได้เร็วที่สุด ขณะที่ตัวรุก 3 คน หาก ดิ มาเรีย ยังลงไม่ได้ก็จะเป็น เอ็นโซ เปเรซ ที่ได้ลงสนามแทน และจะประสานงานกับ เมสซี และเอเซเกล ลาเวซซี โดยที่กองหน้าตัวเป้าเป็น กอนซาโล อิกัวอิน ทำให้ เซร์คิโอ อาเกโร ยังต้องนั่งสำรอง

สำหรับสถิติที่พบกันมาของคู่นี้เป็นอาร์เจนตินา ที่ทำได้ดีกว่าเอาชนะมาได้ 9 ครั้ง เยอรมนี ชนะ 6 ครั้ง และเสมอกันอีก 5 นัด ทั้งสองทีมเคยพบกันในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกมาแล้ว 2 ครั้งในปี 1986 อาร์เจนตินา ที่มี ดิเอโก มาราโดนา เป็นตัวชูโรงเอาชนะไปได้ 3-2 และเมื่อปี 1990 เยอรมนี ที่มี โลธาร์ มัทเธอุส เป็นกัปตันทีม ทีมอินทรีเหล็กชนะไป 1-0 แต่ 2 นัดล่าสุดที่พบกันในฟุตบอลโลก เยอรมนี ชนะในรอบ 8 ทีมทั้งสองนัด ในปี 2006 ชนะด้วยการดวลจุดโทษ และเมื่อ 4 ปีที่แล้วชนะไปถึง 4-0

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของทั้งสองทีมมีดังนี้

เยอรมนี (4-3-3) ผู้รักษาประตู - มานูเอล นอยเออร์, กองหลัง - ฟิลิปป์ ลาห์ม, เฌอโรม บัวเต็ง, มัตส์ ฮุมเมลส์, เบเนดิกท์ โฮเวเดส, กองกลาง - บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, ซามี เคดิรา, โทนี โครส, กองหน้า - เมซุต โอซิล, มิโรสลาฟ โคลเซ, โธมัส มุลเลอร์

อาร์เจนตินา (4-2-3-1) ผู้รักษาประตู - เซร์คิโอ โรเมโร, กองหลัง - พาโบล ซาบาเลตา, มาร์ติน เดมิเชลิส, เอเซเกล การาย, มาร์กอส โรโฮ, กองกลาง - ลูคัส บีญา, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, เอเซเกล ลาเวซซี, เอ็นโซ เปเรซ, ลิโอเนล เมสซี, กอนซาโล อิกัวอิน