นักธุรกิจไทย"เดชพล" ทุ่ม1.5พันล.ซื้อเว้นสเดย์

ทีมลูกหนังเก่าแก่ของอังกฤษ เผยใช้เวลาเจรจาแค่ 45 วัน พร้อมตั้งเป้านำทีมเลื่อนชั้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกให้ได้

เมื่อคืนวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา สื่อในอังกฤษพร้อมใจกันรายงานว่า นายเดชพล จันศิริ แห่งบริษัท เจมิไนย แอนด์ แอสโซซิเอท จำกัด ซึ่งเป็นน้องชายของ นายธีรพงศ์ จันศิริ เจ้าของบริษัท ไทย ยูเนียน โฟรเซน กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตอาหารทะเลรายใหญ่ของไทย ได้เข้าซื้อกิจการของ "นกเค้าแมว" เชฟฟิลด์ เว้นสเดย์ สโมสรลูกหนังเก่าแก่ของอังกฤษ ต่อจาก มิลาน แมนดาริช ประธานสโมสรคนเดิม แบบเบ็ดเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ เรียบร้อยแล้ว โดยใช้เงินสำหรับการเทคโอเวอร์ในครั้งนี้เป็นจำนวน 30 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1,560 ล้านบาท

นายเดชพล ที่ประกอบกิจการขายยาสำหรับคนและสัตว์ เครื่องมือแพทย์ ปุ๋ย ยาปราบศัตรู กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เข้ามาเป็นเจ้าของทีมนกเค้าแมว และเชื่อว่า เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ มีศักยภาพที่ดีพอสำหรับการเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในศึกพรีเมียร์ลีก เพราะปัจจุบันรั้งอยู่ในอันดับ 9 ของตารางคะแนนลีกแชมเปี้ยนชิพ แข่ง 27 นัด มี 38 แต้ม ซึ่งถือว่ายังมีโอกาสลุ้นทำคะแนนติดกลุ่มเพลย์ออฟ เพื่อหาคว้าสิทธิ์ขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีช่วงฤดูกาลหน้า

ขณะที่ มิลาน แมนดาริช ที่เข้ามาซื้อหุ้นเป็นประธานสโมสรทีมนกเค้าแมวมาตั้งแต่ปี 2010 หลังขายหุ้นใหญ่ของ "สุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ ให้ วิชัย ศรีวัฒนประภา แห่ง บ.คิงเพาเวอร์ ของไทย กล่าวว่า การเจรจาซื้อขายหุ้นครั้งนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 45 วันเท่านั้น ซึ่งถือว่าไม่มาก และหวังว่าแฟนบอลจะให้การต้อนรับประธานคนใหม่ชาวไทยเป็นอย่างดี

การเข้ามาเทคโอเวอร์กิจการของนายเดชพล ทำให้เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ กลายเป็นสโมสรฟุตบอลบนเกาะอังกฤษทีมที่ 3 ที่มีเจ้าของเป็นคนไทยต่อจาก "เดอะรอยัลส์" เรดดิ้ง อีกหนึ่งทีมดังในลีกแชมเปี้ยนชิพ ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารงานของ คุณหญิง ศศิมา ศรีวิกรม์ รวมถึง "จิ้งจอกสยาม" เลสเตอร์ ซิตี ทีมลูกหนังในศึกพรีเมียร์ลีก ซึ่งมีนายวิชัย เป็นเจ้าของสโมสร