นำโลกมุสลิมชูมอ.ปัตตานีต้นแบบอยู่ร่วมกันของศาสนา

นำโลกมุสลิมชูมอ.ปัตตานีต้นแบบอยู่ร่วมกันของศาสนา

ผู้นำทางโลกมุสลิม 31 ประเทศ มีมติให้มอ.ปัตตานี เป็นต้นแบบในการอยู่ร่วมกันของต่างศาสนา และแก้ปัญหาที่เป็นความรุนแรงของโลก

รศ.ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  เปิิดเผยว่า ในการสัมมนาทางวิชาการคุณค่าอิสลามในยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลง ระหว่างวันที่ 23-25 มี.ค. นาคม ที่ มอ.ปัตตานีว่า นักวิชาการผู้นำโลกมุสลิม จาก 31 ประเทศรวม 600 คน ได้นำเสนอบทความรวม70 บทความ และมีมติจะทำงานด้วยกัน 3 ประเด็นคือ การศึกษา การวิจัย ความเข้าใจและความร่วมมือในการ ส่งเสริมให้เกิดสันติสุขในสังคมต่างศาสนาในโลกส่งเสริมให้มีความเข้าใจในศาสนาอิสลามและการประยุกต์ใช้ และในอีก 2ปี จะนำเสนอในคราวประชุม ครั้งที่ 4 ที่ปัตตานี

ศ.ดร.กนก วงศ์ตระหง่าน ที่ปรึกษาผู้อำนวยการวิทยาลัยอิสลามศึกษา กล่าวว่าในการประชุมคณะกรรมการจากทุกประเทศสรุปว่าจะต้อง การสร้างสันติสุข และการเข้าใจในอิสลามและประยุกต์ใช้หลักศาสนา ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติ ที่ประชุมเห็นว่าพื้นที่ประเทศไทย เหมาะกับการปฏิบัติ และจะนำการศึกษาการวิจัย มาปฏิบัตินำร่องในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี จะเป็นศูนย์กลาง ด้านการศึกษาทั้งในด้านหลักสูตรและสาระวิชาที่จะสอน นักศึกษาและวิธีการสอนเพื่อให้นักเรียนใน ชายแดนใต้ เป็นมุสลิมที่ดี และมีความรู้ที่จะประกอบอาชีพประสบความสำเร็จในชีวิต ส่วนการพัฒนาคุณภาพครู จะได้เตรียมการรพัฒนาและจะฝึกหัดครูอิสลามให้มีคุณภาพ ตามมติที่ประชุม

ด้านการวิจัยได้มีการพูดกันมากว่าวันนี้หลักการอิสลามถูกบิดเบือน ถูกนำมาใช้บางส่วน ไม่ครบถ้วน จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อหลักการอิสลาม และมุสลิมคือคนที่นับถือศาสนาอิสลามที่อาจจะมีทั้งคนดี และคนไม่ดีแต่อิสลามคือศาสนาเป็นความดีงามถูกต้องงานวิจัยอีกด้านหนึ่งคือการนำศาสนามาแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะปัญหาการสู้รบกัน เนื่องจากการนำศาสนามาใช้ไม่ครบถ้วน ปัญหาความยากจน ปัญหาการขาดการศศึกษาจะนำหลักการอิสลามมาประยุกต์เพื่อการแก้ไข

ที่ประชุมยกย่องประเทศไทยแม้เป็นประเทศที่ไม่ได้มีมุสลิมเป็นส่วนใหญ่ แต่มีมุสลิมเป็นจำนวนมาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอบคุณประเทศไทยที่ให้โอกาสและสิทธิในการนับถือศานาและการปฏิบัติศาสนกิจ การจัดสัมมนา วอศ ที่รัฐสนับ โลกวิชาการพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยคิดว่ารัฐบาลและประเทศไทยจะให้เสรีภาพมากขนาดนี้ มากกว่าที่ประเทศมุสลิมให้แก่คนของเขาเอง

ที่ประชุมเห็นว่าประเทศมุสลิมต่างๆจะต้องเรียนรู้จากประเทศไทย ว่าทำอย่างไรให้ผู้ที่มุสลิมและผู้ไม่ใช่มุสลิมอยู่ด้วยกันได้อย่างสันติและประเทศไทยเป็นตัวอย่างที่เขาจะต้องเข้ามาศึกษาและมาทำงานร่วมกัน ในการที่ทำให้มีสันติภาพที่มั่นคงยิ่งขึ้น การสนับสนุนให้ผู้คิดต่างได้พูดคุยกัน ลดหวาดระแวง ลดอคติ ความสันติสุขก็จะเกิดขึ้นในทุกภูมิภาค รวมถึงจ.ชายแดนภาคใต้