นานาประเทศอพยพคนจากเยเมนจ้าละหวั่น

สถานการณ์ในเยเมนยังคงตึงเครียดเพราะกองกำลังนานาชาติที่นำโดยซาอุดีอาระเบียยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติการทิ้งระเบิดทางอากาศเข้าถล่มเยเมนซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 10 แล้ว ส่งผลให้นานาประเทศอพยพคนของตัวเองออกจากพื้นที่กันอย่างจ้าละหวั่น

เมื่อวันเสาร์ กองทัพฝรั่งเศสได้อพยพชาวต่างชาติ 44 คนออกจากเยเมนโดยเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ "เฟรนช์ ดิกซ์มัด" ซึ่งมุ่งหน้าไปยังประเทศจิบูตี

ในวันเดียวกันนี้ แอลจีเรียก็ได้อพยพคนของตัวเอง 160 คนออกจากประเทศเยเมนที่กำลังระอุด้วยไฟสงครามเช่นกัน โดยสำนักข่าวท้องถิ่นรายงานว่า นอกจากชาวแอลจีเรียแล้วยังมีชาวตูนิเซีย 40 คน ชาวมอริเตเนีย 15 คน ชาวลิเบีย 8 คน ชาวโมร็อคโค 3 คน และชาวปาเลสไตน์อีก 1 คนบินออกจากกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน ไปยังกรุงไคโรของอียิปต์ โดยเครื่องบินที่สายการบินแห่งชาติแอลจีเรียจัดหาให้

ขณะที่มีรายงานว่า จีน, จีบูติ, อียิปต์ และซูดาน และองค์การบรรเทาทุกข์อีก 2 แห่งจะอพยพคนของตัวเองออกในวันอาทิตย์ (5 เม.ย.) นอกจากนี้ยังมีคำร้องขออพยพจากแคนาดา, เยอรมนี และอิรักที่กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินงานด้วย

ทางด้านรัสเซียได้ยื่นมติต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เพื่อเรียกร้องให้กองกำลังที่นำโดยซาอุฯ ยุติการทิ้งบอมบ์เข้าใส่เยเมน เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์สามารถส่งความช่วยเหลือเข้าไปโดยเร่งด่วน ตลอดจนอพยพประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงนักการทูต และชาวต่างชาติออกจากพื้นที่ได้ ขณะที่ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นกล่าวว่าจะนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาในวันจันทร์

ในวันเดียวกัน คณะกรรมการกาชาดสากลได้ออกแถลงการณ์วิงวอนให้มีการหยุดยิงในทันทีเป็นเวลา 24 ชั่วโมงเพื่อส่งมอบเวชภัณฑ์กู้ชีพเข้าไปยังประเทศเยเมน และบอกว่าขณะนี้สถานการณ์เลวร้ายมาก

ขณะที่ประธานาธิบดีอัลจีเรีย ซึ่งไม่ยอมส่งทหารของตัวเองไปถล่มกบฎฮูตีในเยเมนร่วมกับชาติอาหรับอื่น ๆ ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการตรวจสอบสถานการณ์ในเยเมนที่เลวร้ายลงไปมากในช่วงไม่กี่วันมานี้

ทั้งนี้ นักรบฝ่ายกบฎฮูตี ซึ่งนับถือศาสนาอิสลามนิกายชีอะต์ ได้บุกเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลเยเมนในเมืองหลวงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้ซาอุฯ ซึ่งนับถือศาสนาอิสลามนิกายสุหนี่ หวั่นเกรงกว่ากบฎฮููตีจะเปลี่ยนประเทศเยเมนให้กลายเป็นประเทศชีอะต์ แล้วหันไปฝักใฝ่กับอิหร่านซึ่งเป็นพวกชีอะต์เหมือนกัน จึงไปรวบรวมพันธมิตรประเทศสุหนี่ขึ้นมาจัดตั้งกองกำลังผสมนานาชาติขึ้นถล่มฐานที่มั่นของฝ่ายกบฎฮูตีขึ้น โดยผู้ที่เข้าร่วมกับซาอุฯ นั้นเป็นประเทศแถบภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย จอร์แดน โมร็อคโค ซูดาน และอียิปต์