บาเยิร์นเจ็บเพียบเตะชปล. แข้งดังเดี้ยงอื้อ

 คืนวันอังคารที่ 21 เม.ย. ขณะที่ บาร์เซโลนา ไม่ประมาทยังพร้อมจัดทัพใหญ่รับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แม้จะชนะมาก่อนในนัดแรก 3-1

ศึกฟุตบอลสโมสรยุโรป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 คืนวันอังคารที่ 21 เมษายนนี้ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค จ่าฝูงบุนเดสลีกา เยอรมนี จะเปิดสนามฟุตบอล อารีนา มิวนิค รับการมาเยือนของ ปอร์โต ยักษ์ใหญ่จากโปรตุเกส ในเวลา 01.45 น. หลังจากที่เกมแรก บาเยิร์น ไปแพ้มาก่อน 1-3 และเกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือเจ้าถิ่นยังมีปัญหาเรื่องนักเตะบาดเจ็บอยู่เต็มทีมเหมือนเดิม ล่าสุด ฆวน เบร์นาท แบ็กซ้ายได้รับบาดเจ็บในเกมที่ชนะ โฮฟเฟนไฮม์ 2-0 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

นอกจาก เบร์นาท ที่ต้องลุ้นทดสอบความฟิตแล้ว แนวรับของ บาเยิร์น จะไม่มี เมห์ดี เบนาเทีย กับ ดาวิด อลาบา 2 นักเตะที่ยังไม่หายเจ็บกลับมา และต้องลุ้นหนักกับ ฟิลิปป์ ลาห์ม ฟูลแบ็กกัปตันทีมที่คาดว่าไม่น่าจะฟิตทัน ขณะที่แดนกลางต้องลุ้นความฟิตของ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ รองกัปตันทีมที่มีอาการป่วยไม่ได้ลงสนามในเกมล่าสุด ส่วนแนวรุกยังคงไม่มี 2 ตัวเก่งอย่าง ฟรองก์ ริเบรี กับ อาร์เยน ร็อบเบน ที่ยังต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บ จึงต้องใช้ มาริโอ เกิตเซ, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี และโธมัส มุลเลอร์ ประสานงานร่วมกันต่อไป

ฝั่ง ปอร์โต ของกุนซือ ฆูเลน โลเปเตกี แม้จะไม่มีปัญหาเรื่องนักเตะตัวหลักได้รับบาดเจ็บ แต่คาดว่า แจ็คสัน มาร์ติเนซ กับ คริสเตียน เทโญ ที่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยน่าจะฟิตลงสนามได้อย่างไม่มีปัญหา ส่วนแนวรับมีผู้เล่นติดโทษแบนไปพร้อมๆ กัน 2 คน นั่นก็คือ อเลกซ์ ซานโดร และ ดานิโล 2 นักเตะบราซิลที่เป็นตัวหลักในถ้วยนี้มาตลอด

ส่วนอีกคู่เวลาเดียวกัน "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลนา จ่าฝูงลาลีกา สเปน จะเปิดคัมป์ นู ต้อนรับ "เปแอสเช" ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จ่าฝูงลีก เอิง ฝรั่งเศส โดย หลุยส์ เอ็นริเก กุนซือเจ้าถิ่นไม่ประมาททีมเยือน จึงพร้อมจัดทีมชุดใหญ่ลงสนามอย่างแน่นอน แม้ว่านัดแรกจะบุกไปชนะที่ปารีสมาได้ก่อน 3-1

ด้านผลฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ที่เวมบลีย์ เมื่อคืนวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล พลาดท่าแพ้ แอสตัน วิลล่า 1-2 ส่งผลให้ แอสตัน วิลล่า ได้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล แชมป์เก่าจากเมื่อปีก่อน ในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ ขณะที่ผลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านชนะ เวสต์แฮม 2-0 ส่งผลให้ แมนฯ ซิตี้ ยังคงรั้งอันดับ 4 แข่ง 33 นัด มี 64 แต้ม ไล่ตามหลัง "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 3 เหลือเพียงแต้มเดียว ขณะที่ "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส บุกไปชนะ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิล ได้ถึงถิ่นเซนต์ เจมส์ ปาร์ค 3-1