ส่อง 'ของแปลก' โรงจำนำ คนหิ้วแปะโป้งรับเปิดเทอม

ส่อง 'ของแปลก' โรงจำนำ คนหิ้วแปะโป้งรับเปิดเทอม

(รายงาน) ส่อง "ของแปลก" โรงจำนำ คนหิ้วแปะโป้งรับเปิดเทอม

เมื่อถึงช่วงเปิดภาคเรียนทีไร เป็นต้องมีข่าวโรงรับจำนำเตรียมเงินสำรองไว้รองรับพ่อแม่ผู้ปกครองนำทรัพย์สินเข้ามา “ตึ๊ง” เพื่อนำเงินมาหมุนแบ่งใช้จ่ายเป็นค่าเทอม ค่าเสืื้อผ้า หนังสือ เครื่องเขียน และอีกจิปาถะ
แต่ในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี ค่าครองชีพสูง เราจึงได้เห็นการนำสิ่งของที่ไม่คิดว่าจำนำได้ถูกนำมาจำนำ และโรงรับจำนำก็รับเสียด้วย


สิ่งของที่ว่าคือ “ตุ๊กตาบลายธ์” ตุ๊กตาแฟชั่นยอดฮิตจากต่างประเทศ “ตุ๊กตาเฟอร์บี้” “กระเป๋าแบรนด์เนม” ยัน “ขวดยานัด” ก็มีคนนำมาจำนำ ผู้รับจำนำจึงต้องหามาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยให้เป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการสูญหายหรือถูกโจรกรรม


นายสิทธิวิชญ์ ตั้งธนาเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตั้งธนสิน จำกัด หรือ โรงรับจำนำอีซี่มันนี่ ย่านรังสิต จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า ใกล้ช่วงเปิดเทอมจะมีพ่อแม่ผู้ปกครองนำสินค้า ซึ่งมีหลากหลายประเภทตั้งแต่ทองคำแท้ เพชร นาฬิกา อุปกรณ์ไอทีต่างๆ หรือประเภทกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อดังต่างๆ ตุ๊กตาบลายธ์ ตุ๊กตาเฟอร์บี้
รวมไปถึงสินค้าเก่าที่มีราคา เช่น เงินพดด้วง ขวดยานัดที่มีฝาทำจากทองคำแท้ ซึ่งถือว่ามีมูลค่าไม่แตกต่างไปจากของใหม่ ซึ่งในช่วง 2-3ปี หลังมานี้มีผู้ที่นำกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อดังต่างๆ และตุ๊กตาบลาย มาจำนำกับโรงรับจำนำแห่งนี้สูงมากขึ้น


อาจเป็นเพราะโรงรับจำนำแห่งนี้รับสินค้าเกือบทุกประเภทที่ตลาดมือ 2 สนใจ ซึ่งอาจจะแตกต่างจากโรงรับจำนำอื่นๆ รวมถึงให้ราคาได้เหมาะสมกับสินค้า


เขาบอกว่า อย่างเช่น ตุ๊กตาบลายธ์ จะดูจากรุ่นที่คนนิยมเล่น ถ้ารุ่นไหนคนนิยมเล่นก็จะให้ราคาสูง เพราะสามารถขายออกได้ง่าย แต่ถ้ารุ่นไหนไม่เป็นที่นิยมก็จะให้ราคาค่อนข้างน้อย แค่หลักพันบาท
ส่วนตุ๊กตาเฟอร์บี้ก็จะดูรุ่นที่นิยมเช่นเดียวกันแต่ก็ให้ราคาตั้งแต่ 1,000-3,000 บาท เพราะปัจจุบันคนไม่ค่อยนิยมเล่นเหมือนเมื่อช่วง 3 ปีที่ผ่านมา


ถ้าเป็นกระเป๋าแบรนด์ดังก็จะให้ราคาที่เหมาะสมกับรุ่นที่เป็นที่นิยม ซึ่งก็มีตั้งแต่หลักพันถึงไปถึงหลักหลายหมื่นบาท อย่างเช่น แบรนด์หลุยส์ แอร์เมส หรือกุชชี่ ก็จะเป็นแบรนด์ที่คนนิยมและติดตลาดจะซื้อง่ายขายคล่อง
แต่ทั้งนี้จะต้องมีอุปกรณ์ครบ สภาพดี ถึงจะได้ราคาดีตามสภาพ โดยเฉพาะช่วงเดือน พ.ค.นี้ซึ่งเป็นช่วงใกล้เปิดเทอม จะมีผู้นำสินค้ามาจำนำกับทางเราเพิ่มมากขึ้นถึง 30% ซึ่งมีเงินหมุนเวียนในเดือนนี้ 1,500 -2,000 ล้านบาทใน 30 สาขา


เขาบอกว่า การจัดเก็บสินค้าให้มีความปลอดภัย โดยสินค้าที่เป็นประเภททองคำ เพชร หรือนาฬิกายี่ห้อดัง จะเก็บอยู่ในห้องนิรภัย ซึ่งอยู่ในพื้นที่ความมั่นคงทนความร้อนจากไฟไหม้ได้นานกว่า 3 ชั่วโมง ติดตั้งกล้องอินฟาเรทและวงจรปิดไว้หลายตัว


ส่วนประตูเปิด-ปิดภายในร้านหรือห้องเก็บสินค้าจะเป็นระบบจากคนที่อยู่ภายในจะต้องเป็นผู้เปิด-ปิด ให้คนที่จะเข้ามาด้านใน ซึ่งถ้าเป็นคนร้ายก็ไม่สามารถเข้าแน่นอน


“ถ้าเป็นกระเป๋าแบรนด์เนม ตุ๊กตาบลาย หรือสินค้าไอที เช่น โทรศัพท์มือถือ โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต ก็จะเก็บอยู่ในห้องนิรภัย เช่นเดียวกัน แต่จะอยู่อีกชั้นหนึ่งที่มีความปลอดภัยสูงเช่นเดียวกัน"


ส่วนด้านหน้าโรงรับจำนำก็จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลบุคคลที่เข้าออกตลอดเวลาทำการ สำหรับลูกค้าที่นำสินค้ามาจำนำจะมีอยู่ 2 ประเภท คือ ผู้ที่เดือดร้อนเรื่องเงินกับผู้ที่ต้องการนำเงินไปลงทุน เมื่อได้กำไรก็จะกลับมาไถ่ถอนสินค้าคืน


อีกประเภท คือ นำสินค้าที่มีมูลค่ามาฝากไว้ในช่วงที่ไม่อยู่บ้าน สินค้าที่นำมาฝากก็เป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงมาก เพราะส่วนใหญ่เป็นเพชรกับทองคำ แต่มาเอาเงินกับเราแค่ 2,000 บาท ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือตามเทศกาลต่างๆ ก็จะเริ่มมีมากขึ้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นการฝากสินค้าไว้กับเราอีกทางหนึ่ง ลักษณะแบบนี้เราก็รับไว้เช่นเดียวกัน


ขณะที่ นายวิวัฒน์ แก่นจันทร์ ผู้จัดการโรงรับจำนำประชานุบาล ย่านอุดมสุข เปิดเผยว่า เป็นประจำทุกปีในช่วงเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นช่วงเปิดภาคเรียนจะมีพ่อแม่ ผู้ปกครองนำสินค้ามาจำนำกับทางโรงรับจำนำเป็นจำนวนมาก ซึ่ง 98% สินค้ายังคงเป็นทองคำแท้ ทั้งสร้อยคอทองคำ ต่างหูทองคำ หรือแหวนทองและแหวนเพชร ส่วนสินค้าที่เป็นของใช้บางอย่างทางโรงรับจำนำของเราจะไม่รับ เพราะขายออกยาก


“ปีนี้รู้สึกค่อนข้างเงียบเหงา ไม่ค่อยมีคนมาใช้บริการอย่างปีที่ผ่านๆมา โดยเฉพาะในช่วงใกล้เปิดเทอมปกติจะมีพ่อแม่ผู้ปกครองมาใช้บริการค่อนข้างเป็นจำนวนมากในทุกปี เพราะต้องการเงินไปซื้ออุปกรณ์การเรียนให้กับบุตรหลานของตัวเอง ก็จะมีเงินหมุนเวียนในโรงรับจำนำเป็นจำนวนมาก”


นางสาววาสนา หมู่หัวนา ผู้ใช้บริการโรงรับจำนำแห่งหนึ่ง ย่านบางนา ยอมรับว่า จำเป็นต้องใช้บริการโรงรับจำนำในระยะนี้ เพราะมีค่าจ่ายสูง ซึ่งจะระมัดระวังการชิงทรัพย์มากเป็นพิเศษขณะที่อยู่ในละแวกโรงรับจำนำ
“ส่วนใหญ่จะนำสินค้าเป็นสร้อยคอทองคำมาจำนำ เพราะหมุนเงินไม่ทัน ซึ่งจะขัดสนในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ก็จะทำในลักษณะนี้บ่อยครั้ง เพราะมีภาระหนักต้องเลี้ยงดูครอบครัวหลายคน แต่ถ้าเมื่อไหร่มีเงินก็จะมาไถ่ถอนกลับทันที”


ช่วงเปิดเทอมอย่างนี้จึงไม่ต่างจากเทศกาลอย่างหนึ่งของพ่อแม่ผู้ปกครองหลายๆ คนนำทรัพย์สินมีค่ามาจำนำเพื่อนำเงินสดไปใช้จ่าย ซึ่งบรรยากาศแบบนี้ สะท้อนถึงวิถีชีวิต พฤติกรรมการใช้จ่าย ตลอดจนสภาพเศรษฐกิจของผู้คนและสังคมในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี