2สัปดาห์ก่อนบึ้ม! สถานฑูตจีนขอตร.ดูแลความปลอดภัย

2สัปดาห์ก่อนบึ้ม! สถานฑูตจีนขอตร.ดูแลความปลอดภัย

เผยก่อนเหตุระเบิดราชประสงค์ สถานฑูตจีนประสาน "นครบาล" ขอจนท.ดูแลความปลอดภัย

จากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางเหตุระเบิดขนาด 5 ปอนด์ ที่บริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ เมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ชาวไทยและชาวต่างชาติที่กำลังสักการะศาลพระพรหมและที่เดินอยู่บริเวณดังกล่าวเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น


ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) รายงานข่าวจากชุดสืบสวนแจ้งว่า หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดก่อนหน้าเกิดเหตุประมาณ 1 ชั่วโมง พบชายต้องสงสัย 1 ราย ไม่ระบุสัญชาติ รูปร่างผอม-สูง ผมหยักศก ใส่แว่นตา สวมเสื้อยืดสีเหลือง นุ่งกางเกงขาสั้นสีฟ้า สวมรองเท้าผ้าใบ สะพายเป้สีน้ำเงิน โดยสารรถตุ๊กตุ๊กจากแยกศาลาแดง วิ่งผ่านแยกราชประสงค์ ก่อนจะกลับรถมาจอดบริเวณหน้าโรงแรมแกรนด์ไฮเอทเอราวัณ ใกล้เคียงกับศาลพระพรหม


จากนั้นได้เดินเข้าไปนั่งบริเวณเก้าอี้ม้าหินริมรั้วด้านในศาลพระพรหม จากนั้นได้ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปเซลฟี่และถ่ายรูปพระพรหมก่อนที่จะวางกระเป๋าเป้ลงด้านล่างเก้าอี้ ก่อนจะเดินออกมาจากบริเวณดังกล่าว หลังจากนั้นอีก 4-5 นาที จึงเกิดเหตุระเบิดขึ้น ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดพร้อมกับพยานในที่เกิดเหตุว่าชายต้องสงสัยเดินไปทิศทางใดหลังจากเกิดเหตุ รวมถึงจะเร่งติดตามคนขับรถตุ๊กตุ๊กคันที่มาส่งชายต้องสงสัยเพื่อมาสอบปากคำต่อไป


รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุประมาณ 2 อาทิตย์ ทางสถานเอกอัครราชฑูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้ประสานมายัง บช.น. เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่ไปดูแลรักษาความปลอดภัย โดยทาง พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ได้สั่งการให้กองกำกับการสายตรวจ191 จัดรถสายตรวจไปเฝ้าประจำสถานฑูตต่างๆ เพราะคิดว่าคนร้ายน่าจะมุ่งเป้าไปที่สถานฑูตมากกว่าหากเป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งของชาวอุยกูร์จริง นอจากนี้จากการข่าวความมั่นคงยืนยันว่าให้ระมัดระวังการก่อความไม่สงบกับนักท่องเที่ยวชาวจีนใน กทม. อีกด้วย ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการก่อการร้ายอย่างชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ตัดประเด็นการเมืองทิ้ง ทั้งนี้ที่ผ่านมาการก่อเหตุไม่สงบทางการเมืองไม่มีความรุนแรงขนาดนี้ วัสดุที่ใช้ก่อเหตุจะไม่รุนแรงเท่าครั้งนี้


รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง ผบ.ตร. ได้แบ่งชุดทำงาน ประกอบด้วย ชุดสืบสวนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, บก.น.5, กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บก.สส.บช.น.), ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.), กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.), ตำรวจสันติบาล, กองกำกับการกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด(อีโอดี), กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล, สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ(สพฐ.) โดยจะมีการประชุมร่วมกันที่ บก.สส.บช.น. เวลา 14.00 น. เพื่อเร่งสรุปพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะการสืบสวนด้านเทคนิค อาทิ การติดตามไล่ภาพกล้องวงจรปิดบุคคลต้องสงสัยบริเวณโดยรอบทั้งหมด การหาข้อมูลกลุ่มชาวต่างชาติต้องสงสัย โดยเฉพาะชาวตะวันออกกลาง เนื่องจากพบภาพชายต้องสงสัยมีลักษณะคลายคลึงกันกับคนสัญชาติดังกล่าว


ส่วนข้อมูลที่มีการตรวจสอบเพิ่มเติม ได้มีการนำข้อมูลถิ่นที่พักอาศัยของชาวตะวันออกกลาง โดยเฉพาะชาวอุยกูร์ ที่มีข้อมูลยืนยันเบื้องต้นว่า อยู่บริเวณซอยนานา ซอย 3 และซอย 4 บริเวณย่านสีลม รวมถึงตรวจสอบชนิดดินปืนของวัตถุระเบิด ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร แต่ได้มีการสืบค้นข้อมูลคดีเก่าที่เกี่ยวข้องกับระเบิดที่ผ่านมาย้อนหลัง