ดีดโบสถ์วัดต้นเชือก พลาดถล่มทับคนงานดับ1เจ็บ1

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่25ส.ค.58 ร.ต.ท.ธนดล ช่อชั้น ร้อยเวรสภ.บางแม่นาง จ.นนทบุรีรับแจ้งเหตุอุโบสถวัดต้นเชือก หมู่4ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ถล่มพังลงมามีผู้ติดภายในเสียชีวิต1ราย จึงรายงาน พ.ต.อ.กองสรร ควรระงับกมล ผกก.สภ.บางแม่นาง รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง อาสาสมัครอำเภอบางใหญ่ เจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนาจังหวัดนนทบุรี

ที่เกิดเหตุเป็นอุโบสถประจำวัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2492 สภาพพังทรุดตัวลงมาทั้งหลังจนหลังคาพังทลายลงมาและที่ฝาผนังโบสถ์ก็เกิดรอยร้าวแตกกระจายทั้งหลังเจ้าหน้าที่จึงต้องนำเชือกเข้ามากั้นปิดล้อมไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในบริเวณโบสถ์เพราะกลัวว่าตัวโบถส์จะพังถล่มลงมาเป็นอันตรายจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายถูกนำตัวส่งรพ.บางใหญ่ไปก่อนหน้านี้แล้วขณะเดียวกันยังพบร่างผู้เสียชีวิตติดอยู่ใต้ซากโบถส์ที่ถล่มลงมา1รายทราบชื่อต่อมาคือนายณัฐวุฒิ สุวรรณชัยรบ อายุ 22 ปี

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าทางคณะกรรมการของวัดต้นเชือกได้มีการว่าจ้างนายณรงค์ฤทธิ์ หลักทอง อายุ32ปีผู้รับเหมาให้เข้ามาดำเนินการดีดโบถส์ที่เกิดเหตุให้สูงขึ้นจากเดิมอีก 3เมตรในราคา 3.2 ล้านบาทโดยเริ่มดำเนินการดีดโบถ์เมื่อเดือนธ.ค.ปี2557เนื่องจากประชาชนที่มาทำบุญที่วัดเห็นว่าโบถส์อยู่ต่ำกว่าพื้นวัดจนทำให้เวลาฝนตกมีน้ำท่วมขังซึ่งในวันนี้ขณะที่คนงานจำนวน 9 คนกำลังช่วยกันดีดโบถส์ลงที่พื้นฐานที่สร้างรอไว้ก่อนหน้านี้แล้วก็เกิดการทรุดตัวพังทลายลงมาของโบถส์ทันที่จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

เวลาต่อมา นายชนม์ชื่น บุญญานุสาสน์ ผวจ.นนทบุรีได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุพร้อมกับประสานขอรถเครนรถกระเช้าและอุปกรณ์ตัดถ่างเข้ามาเพื่อให้การช่วยเหลือนำร่างของผู้เสียชีวิตขึ้นมาโดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 4 ชม.ในการนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาได้

ด้านนายวีรพล แก้วลืมไพร่ อายุ43ปี คนงานที่ได้รับบาดเจ็บกล่าวว่าตนมีหน้าที่เป็นช่างคอยดูแลรวดสลิงและลอกเพื่อดึงคอยประคองน้ำหนักโบถส์ขณะทำการดีดขึ้นโดยก่อนเกิดเหตุตนกำลังนั่งอยู่บนนังร้านที่ชั้น 2 ก็ได้ยินเสียงดังแก๊กก่อนที่โบถส์ทั้งหลังจะทรุดตัวพังถล่มลงมาจนทำให้ตนกระเด็นตกลงมาได้รับบาดเจ็บที่ศรีษะส่วนคนงานคนอื่นๆวิ่งหนีออกมาได้ทันมีเพียงนายณัฐวุฒิที่วิ่งหนีออกมาไม่ทันจนโดนโบถส์ทับจนเสียชีวิต

 เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายณรงค์ฤทธิ์แต่อย่างใดเนื่องจากยังไม่มีผู้เสียหายเข้าไปแจ้งความแต่ถ้าหากมีญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางเข้ามาแจ้งความก่อจะมีการเรียกตัวนายณรงค์ฤทธิ์เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาต่อไปโดยในเบื้องต้นจะแจ้งข้อกระทำการโดยประมาทจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตต่อไป