หนุ่ม รฟท. ขอโทษแซว 'สาวแอร์ไลออน' ปมระวังระเบิด

หนุ่ม รฟท. ขอโทษรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หลังแซว "แอร์โฮสเตส" ไลออนแอร์ ระวังระเบิดในกระเป๋า ด้านผบช.น.เตือนมีโทษสูง หากผิดคุก15ปี ปรับถึง6แสนบ.
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.ดูแลงานปราบปราม พร้อมด้วยพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รรท.ผบก.น.2 พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผกก.สน.ดอนเมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดอนเมือง ได้เชิญตัวนายพิชิต บุญแดง อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาคดีแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสาร ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จและการแจ้งนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้ผู้อื่นที่อยู่ในท่าอากาศยานหรืออยู่ในระหว่างการบินตื่นตกใจ หลังจากได้ก่อเหตุพูดแซวแอร์โฮสเตส ขณะที่จะขอเก็บกระเป๋าเข้าช่องเก็บของบนเครื่องบินให้ระวังระเบิด จนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมีการตรวจสอบเครื่องบินของสายการบินไลออนแอร์ เที่ยวบินที่ SL 8536 เมื่อช่วงเวลาประมาณ 09.30 น. วันที่ 1 พ.ย. ซึ่งผลจากการตรวจสอบไม่พบระเบิดแต่อย่างใด เป็นเหตุให้สายการบินดังกล่าวได้รับความเสียหาย เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบเกี่ยวกับพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 มาตรา 22 เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์การกระทำความผิดในลักษณะนี้ขึ้นอีก
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า จากกรณีที่มีผู้โดยสารข่มขู่วางระเบิดบนเที่ยวบินของสายการบินไลออนแอร์ ที่กำลังบินออกจากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง จนทำให้ต้องยกเลิกการบินนั้น โดยนายพิชิต มีพฤติการณ์เป็นผู้โดยสารในเที่ยวบินได้นำกระเป๋าสะพายติดตัวขึ้นไปบนเครื่องบินด้วย และจังหวะนั้นทางด้านแอร์โฮสเตสจะนำกระเป๋าใบดังกล่าวไปเก็บให้ นายพิชิตก็ได้บอกกับแอร์โฮสเตสว่า “เก็บกระเป๋าดีๆ นะ ระวังระเบิด” ที่เชิญนายพิชิตมาในวันนี้ เนื่องจากกฎหมายที่นายพิชิตได้กระทำผิดเป็นกฎหมายที่ออกประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาเป็นพ.ร.บ.ใหม่เอี่ยมที่เรียกว่าพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 มาตรา 22 ซึ่งขณะนี้นายพิชิตเป็นผู้ต้องหา แต่อยู่ระหว่างการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนของ สน.ดอนเมือง โดยเป็นคนแรกที่กระทำความผิดในราชอาณาจักรไทย ตามองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 22 ซึ่งเป็นต้นแบบความผิดที่ไม่ดี
จากการสอบถามนายพิชิต ทำให้ทราบว่าเป็นครั้งแรกที่นายพิชิต ได้ขึ้นเครื่องบินและได้เดินทางไปที่สนามบิน เพื่อที่จะเดินทางไปงานแต่งงานเพื่อนที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทั้งนี้ การที่จะบอกกล่าวข้อความอันเป็นเท็จ จนทำให้เกิดความตื่นกลัวในเครื่องบิน สนามบิน หรือที่ต่างๆ เหล่านี้ อยากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้จะต้องโดยสารเครื่องบินว่าจะไปพูดข้อความอันเป็นเท็จลักษณะนี้ไม่ได้ เพราะเป็นความผิดตามกฎหมาย
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ พล.ต.อ.พงศพัศ ให้ความสนใจ ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ที่ควรนำมาเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ไปถึงพี่น้องประชาชนที่เดินทางโดยเครื่องบิน ซึ่งกฎหมายฉบับนี้เพิ่งมีผลบังคับใช้เมื่อ 13 ก.พ. 58 มีอัตราโทษค่อนข้างสูง ซึ่งกรณีของนายพิชิตเข้าองค์ประกอบความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 มาตรา 22 ผู้ใดแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสาร ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยาน หรือผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของท่าอากาศยานในระหว่างการบินผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบห้าปี หรือปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงหกแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งทางด้านนายพิชิตแม้จะประกันตัวไปแล้วแต่เมื่อได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ก็ยินดีที่จะเดินทางมาให้ข้อมูลเป็นอุทาหรณ์กับพี่น้องประชาชน
ด้านนายพิชิต กล่าวว่า ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตนเอง ทำให้คนอื่นเดือดร้อนและเสียหายมาก การที่ผมพูดในสิ่งที่ไม่สมควรพูดในบางพื้นที่นั้น ก่อให้เกิดความเสียหายหลายๆ ด้าน ทั้งทำให้เครื่องบินล่าช่า ทำให้เที่ยวบินต้องยกเลิกไปเลย ซึ่งวันนั้นผมจะเดินทางไปงานแต่งเพื่อนที่หาดใหญ่ ผมขึ้นเครื่องบินครั้งแรก และไม่เคยรู้ว่าพ.ร.บ.ฉบับนี้มีกฎหมายอย่างนี้ ซึ่งตนได้พูดไปโดยที่ตัวเองไม่ได้คิด และด้วยความคึกคะนองจะแซวถามแอร์โฮสเตส ก็เลยแซวไปอย่างนั้น จึงอยากให้คดีของผมเป็นอุทาหรณ์ และหวังว่าคดีในลักษณะนี้จะไม่มีเกิดขึ้นมาอีก กระผมต้องขอประทานโทษพี่ๆน้องๆ ทุกคนที่ทำให้เดือดร้อนวุ่นวายในครั้งนี้ขึ้น ผมสำนึกผิดและยอมรับผิดในการกระทำของผม และจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว